ถึงแม้ว่าจะมีการย้ายปราสาทกันอยู่ แต่ส่วน Honmaru ก็ยังเปิดให้เข้าชมได้ตามปกติ ซึ่งใครจะเข้าไปจะต้องซื้อบัตรผ่านเข้าชมราคา 310 เยนเสียก่อน
ด้านหน้าตัวปราสาทจะพื้นลอยยกขึ้นมาเพื่อให้เราชมตัวปราสาท
พื้นที่ตรงกลาง Honmaru กำลังก่อสร้างฐานปราสาทชั่วคราวอยู่
ตัวปราสาทได้ปิดไม่ให้เข้าชมด้านในแล้ว
บริเวณ Honmaru ยังมีจุดสำหรับชมภูเขา Iwaki ด้วย แต่วันที่ไปหมอกลงจนมองไม่เห็น
ผมถ่ายรูปในส่วน Honmaru อยู่สักพักนึง ผมก็เดินข้ามสะพาน Takaokabashi ไปยังส่วน Kita no Kuruwa
พอออกมาจาก Honmaru แล้ว ผมใช้เวลาอยู่ที่ส่วน Kita no Kuruwa ไม่นานมาก ก็เดินกลับไปยังส่วน Ninomaru เพื่อออกไปนั่งรถกลับไปยังสถานี
ใกล้ประตูชั้นในทิศตะวันออก จะมีต้นซากุระพันธุ์ Somei Yoshino ที่มีอายุมากที่สุดในญี่ปุ่น คือมากกว่า 100 ปีแล้ว เชื่อว่าตอนหน้าดอกซากุระบานน่าจะสวยมาก
สำหรับขากลับ ผมเดินไปออกสวนตรงประตูด้านทิศตะวันออก
จากนั้นก็เดินไปยังอาคาร NHK ที่อยู่ใกล้ ๆ กันเพื่อรอรถบัสกลับไปยังสถานี
ป้ายรถเมล์นั้นจะอยู่ข้างหน้าตึก NHK พอดี ผมยืนรอรถประมาณ 10 กว่านาที รถเมล์ 100 เยนก็ผ่านมาพอดี
รถเมล์ใช้เวลาวิ่งไม่นานมาก ก็กลับมาถึงหน้าสถานี Hirosaki และมีเวลาเหลือให้ผมเอา JR East Pass ไปแลกของที่ระลึกที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวได้
ที่ผมเองต้องทำเวลาส่วนนึง ก็เพราะผมจองรถไฟขบวน JR Hakucho เอาไว้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสี่ยงไม่มีรถไฟกลับไปยัง Aomori
รถที่ใช้วิ่งเป็น EMU รุ่น 485-3000 ภายในรู้สึกไม่ได้ใหม่มาก แต่ก็สะอาด ส่วนเก้าอี้ที่นั่งก็มีขนาดใหญ่นั่งสบายตามแบบฉบับตู้ Green Car ของ JR
ตอนหน้า ผมจะเขียนเก็บตกเมือง Aomori และการนั่งรถไฟกลับไปยังโตเกียว ใครที่สนใจก็อย่าลืมติดตามกันนะครับ