ตัวโรงละครจะอยู่ที่ชั้นใต้ดินของตึกในภาพ เมื่อลงมาข้างล่างแล้ว จะเจอพื้นที่รับรองเล็ก ๆ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ที่โต๊ะรับตั๋วกับโต๊ะขายของที่ระลึกอยู่ เรื่องตั๋วนั้นผมได้กดลงชื่อไว้ตั้งแต่ตอนอยู่ที่ไทยแล้ว ผมแค่ส่งอีเมลยืนยันที่ได้รับให้เจ้าหน้าที่เช็ค จ่ายค่าตั๋ว ก็จะได้ตั๋วมา ส่วนของที่ระลึก ผมซื้อสูจิบัตร รูป Instax สุ่ม และเข็มกลัดสุ่มลาย ซึ่งไม่ได้ของคินจังสักอัน
ในรูป เป็นฉากของการแสดงละครเรื่องอื่นครับ
พอจัดการเก็บของเรียบร้อย ผมก็เข้าไปนั่งภายในโรงละคร ที่มีขนาดประมาณห้องเรียนรวมเล็กสมัยผมเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ผมเลือกที่นั่งที่ออกห่างมาจากเวทีเล็กน้อย ส่วนเรื่องการบังนั้น ไม่มีปัญหาเลย เพราะที่นั่งแต่ละแถวจะอยู่บนฐานที่เป็นขั้นบันไดแบบโรงหนังเลย
ระหว่างที่ผมนั่งรอละครแสดง ก็มีแฟนวง Cheeky Parade มาแจกบัตรให้เขียนอวยพรวันเกิดกับสมาชิกของวงด้วย ซึ่งผมเองเห็นเขามาตั้งแค่ตอนรอคิวคอนเสิร์ต GEM เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
เนื้อเรื่องของละครเรื่องนี้จะเกี่ยวกับนักวาดการ์ตูนแฟนตาซีชื่อดังในอดีตที่หมดมุขในการวาดการ์ตูนเรื่องใหม่ จนถูกผู้ดูแลจับไปอยู่ในห้องเช่าแห่งหนึ่งซึ่งมีผู้อยู่อาศัยที่ไม่ธรรมดา ทั้งเจ้าของบริษัทที่หนียากูซ่า ศิลปินสุดเพี้ยน นางฟ้า รวมไปถึงสาวน้อยปริศนาที่ตัวเอกตกหลุมรัก สำหรับบทที่คินจังได้รับคือนางฟ้าเลีย
ในแง่ของการแสดงและโปรดักชั่นนั้น ผมคิดว่าอยู่ในระดับมืออาชีพเลย เพียงแต่สถานที่จัดอาจจะดูเล็กไปบ้าง ส่วนเรื่องของภาษานั้น ตอนแรกผมก็กลัวดูไม่รู้เรื่อง แต่ด้วยความที่เนื้อหาหลักในเรื่องจะวนเวียนเกี่ยวกับการ์ตูน เกม หนังแปลงร่าง ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมคุ้นเคยอยู่แล้ว เลยไม่เป็นปัญหาในการทำความเข้าใจ ส่วนคินจังเอง ผมคิดว่าเขาก็เล่นได้ดีทีเดียว บทที่ได้อาจจะไม่เยอะเท่าตัวละครหลัก แต่ก็มีช่วงเด่น ๆ อยู่ เช่น มุกเกี่ยวกับ Tokyo Yakult Swallows ซึ่งเป็นทีมเบสบอลที่เขาชอบ
พอการแสดงจบลง เหล่านักแสดงก็ออกมาขอบคุณผู้ชม ผมสังเกตเห็นคินจังดูเหนื่อย ๆ ซึ่งผมคิดว่าคงเป็นเพราะการแสดงของเขาที่แบบว่าอินเนอร์มาเต็มทุกฉากมั้ง
รูปจาก Twitter ของ Yoshihashi Arisa
ตอนแรกผมคิดว่าละครจะจบลงแค่นี้ ทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้าน แต่ว่าเหล่านักแสดงได้ลงมาพบกับคนดูข้างและขายของหน้างานที่ยังเหลืออยู่ตรงเวทีกันต่อ ในขณะที่ผมกำลังนั่งดูว่าเจ้าบ้านเขาทำอะไรกันบ้างในจังหวะแบบนี้ คินจังก็เดินไปยังที่นั่งแถวหลังผม เพื่อไปหา Yoshihashi Arisa (แพนด้า) อดีตเพื่อนร่วมวง TOKYO TORiTSU ที่ปัจจุบันเป็นไอดอลในสังกัดของ Arc Jewel และเพื่อนร่วมสังกัดใหม่ที่มาพร้อมกัน ผมเองก็เซอร์ไพรส์นิดหน่อยที่เห็นแพนด้าตัวจริงเอาของมาให้คินจัง แล้วก็เซลฟี่กันตามรูปข้างบน ผมเองคิดว่าพวกเขามากันแบบส่วนตัวควรเฝ้ามองห่าง ๆ จะดีกว่า
หลังจากนั้นคินจังก็เดินกลับไปช่วยขายของที่เวที ผมเลยเดินเข้าไปซื้อรูป Instax เหมือนกับแฟน ๆ เจ้าบ้าน แล้วก็ไปทักทายกับคินจังว่าเป็นแฟนมาจากไทย ติดตามผลงานของเขาตั้งแต่สมัยอยู่วงเก่าอยู่ คินจังก็ขอบคุณแล้วก็จับมือทักทาย เป็นอันว่าผมได้ทำตามสิ่งที่ตั้งใจเอาไว้แล้ว
หลังจากที่ผมออกมาจากโรงละครแล้ว ผมอยู่ถ่ายรูปด้านหน้า TRANCE MISSION อยู่สักครู่หนึ่ง ตอนนี้ถนนเริ่มมีคนไม่เยอะเหมือนช่วงขามาแล้ว
ผมเดินกลับไปที่สถานี Sangubashi เพื่อขึ้นรถไฟกลับไปยังสถานี Shinjuku
ขากลับ ผมเห็น ROMANCECAR Cafe ที่ผมเคยอยากจะมาลองมากินอะไรที่นี้ดูสักครั้ง ตอนที่ผมมาญี่ปุ่นครั้งแรก แต่ด้วยเวลาในตอนนั้นที่ปาเข้าไป 4 ทุ่มกว่าแล้ว ผมเลยรีบไปต่อรถไฟเพื่อกลับไปโรงแรมก่อน
ด้วยความที่ไม่ได้ทานข้าวเย็น ตอนนั้นเลยรู้สึกหิวมาก แถมยังเหนื่อยจากการเดินทางอีก สุดท้ายผมไปได้ข้าวสตูว์เนื้อและซุปวุ้นเส้นที่ Lawson มาทานแทน
สำหรับข้าวสตูว์เนื้อที่ผมซื้อมานี้ เป็นเมนูพิเศษที่ทำออกมาฉลองครบรอบ 40 ปีของ Lawson ซึ่งรสชาตินั้น ผมคิดว่ามันออกไปทางหวาน ๆ และรสอ่อนไปนิดหน่อย แต่โดยรวมแล้วก็โอเคเหมือนกัน
ทริปเที่ยวญี่ปุ่นในวันที่ 6 ของผมก็จบลงเพียงเท่านี้ ตอนหน้าก็จะเริ่มต้นทริปวันที่ 7 ในโตเกียวอีกครั้ง อย่าลืมติดตามกันนะครับ