เรือที่ขึ้นในวันนั้นชื่อ Victory ครับ ลำเดียวกันกับในป้ายข้างบน
ถึงแม้ว่าจะออกแบบเป็นเรือโจรสลัด มีผ้าใบ แต่เวลาขับเคลื่อนเรือก็เหมือนกับเรือสมัยใหม่ สามารถเลี้ยว และถอยหลังได้ด้วย
สำหรับจุดสำคัญของทะเลสาบอะชิ คือการที่เราจะได้เห็นภูเขาไฟฟูจิจากระยะไกล ซึ่งจะมีจุดที่มองเห็นได้สองจุด จุดแรกคือบริเวณใกล้ ๆ กันกับประตูศาลเจ้าฮาโกเน่ที่จมน้ำอยู่ดังรูป
แต่วันที่ไปหมอกลงจัด อุณหภูมิเข้าใกล้ 0 องศา พร้อมฝนประปราย ภูเขาไฟฟูจิเลยหายไปกับทะเลหมอกครับ
อาคารที่เห็นนั้นเป็นโรงแรมของ Odakyu ครับ ถ้าจำไม่ผิด ออนเซนกลางแจ้งของที่นี้จะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ด้วย
ตรงแถว ๆ นี้ น่าจะเป็นอีกจุดนึงที่เห็นภูเขาไฟฟูจิจากบนเรือได้ครับ
ถ้าใครเห็นประตูศาลเจ้าจมน้ำอีกจุดแบบนี้ แสดงว่าเลยจุดที่เห็นภูเขาไฟฟูจิอีกจุดแล้วนะครับ
หมอกเยอะมาก ไม่เห็นภูเขาไฟฟูจิเลย แถมยังหนาวอีกตะหาก ทริปนี้เป็นทริปที่ทำให้รู้ว่าเสื้อกันหนาวของ UNIQLO นี้ช่วยกันหนาวไม่ค่อยได้เท่าไรสำหรับคนเมืองร้อน
ใกล้ถึงท่าเรือ Togendai-ko ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของเรา
อิจฉาเด็กที่อยู่ฝั่ง VIP จังเลย แต่แบ่งฝั่งกันชัดเจนแบบนี้ ผมนึกถึงหนัง Titanic เลยแฮะ
ตอนขาลงมาเจอโจรสลัดตัวจริงด้วย
ตอนหน้า เราจะขึ้นเขาเพื่อไปยัง Owakudani ที่มีไข่ดำอันลือชื่อกันครับ
ไม่ทราบว่าที่สถานี Hakone-Yumoto มีล๊อคเกอร์ไว้ฝากกระเป๋าเดินทางมั้ยคะ เพราะเสร็จจากที่นี่จะไปนอนที่สถานี Fuji Q ค่ะ
เท่าที่เช็คดูจากในเว็บไซต์ https://www.hakonenavi.jp/english/traffic/station_map/
ที่สถานีมีทั้งตู้ล็อกเกอร์และเคาท์เตอร์รับฝากกระเป๋าครับ