เที่ยวญี่ปุ่น : ชมทะเลหมอกบน TOKYO SKYTREE และชิมราเมนระดับยอดฝีมือที่ย่านชินางาวะ

Japan Trip : Tokyo Sky Tree

หลังจากที่เราไปย่านอากิฮาบาระในตอนที่แล้ว ก็ได้เวลาที่จะไป TOKYO SKYTREE ซึ่งตอนนี้ครองตำแหน่งหอคอยสื่อสารที่สูงที่สุดของโลกกันแล้วครับ

สำหรับการเดินทางจากสถานีอากิฮาบาระไปยัง TOKYO SKYTREE นั้น ตอนแรกผมเช็คสายรถไฟจาก Hyperdia แต่พบว่าเส้นทางที่ Hyperdia ให้มานั้นมันต่อหลายสถานีมาก ๆ เลยลองถามเจ้าหน้าที่ในสถานีดู เลยได้คำตอบว่าให้นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Kinshicho แล้วต่อรถไฟใต้ดินไปยังสถานี Oshiage ที่เป็นสถานีที่เชื่อมกับ TOKYO SKYTREE TOWN พอดี

Japan Trip : Tokyo Sky Tree

เมื่อกี๊อาจจะสงสัยว่าทำไมผมเพิ่มคำว่า TOWN ต่อท้าย TOKYO SKYTREE ด้วย คือชื่อนี้เป็นชื่อเรียกของกลุ่มอาคารที่อยู่รอบ TOKYO SKYTREE ซึ่งจะประกอบด้วย TOKYO SKYTREE EAST TOWER ที่อยู่ข้าง ๆ  TOKYO SKYTREE พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Sumida และ TOKYO Solamachi ที่เป็นอาคารล้อมรอบหอและเป็นส่วนฐานให้กับตึกพวกนี้อีกที สำหรับขาเก็บฟิกเกอร์ สำนักงานของ Good Smile Company ก็จะอยู่ที่ตึก EAST TOWER นี้แหละครับ

Japan Trip : Tokyo Sky Tree

ก่อนอื่นก็ขอเดินดูร้านค้าใน TOKYO Solamachi ที่เป็นห้างสรรพสินค้ากันก่อน ที่นี้ก็มีร้านค้าแบรนด์เนมของสินค้าต่าง ๆ มากมาย เช่น Onitsuka Tiger, Disney Store, Tokyo Banana รวมทั้ง Hello Kitty ในรูปนี้ด้วย

Japan Trip : Tokyo Sky Tree

สำหรับร้านค้าหลาย ๆ ร้านในนี้ ก็จะมีการออกสินค้าพิเศษที่เกี่ยวข้องกับ TOKYO SKYTREE ด้วย เอาไว้ให้ซื้อเป็นที่ระลึกหรือเป็นของฝากชาวบ้าน แต่ในรูปเป็นกระเป๋าเป๊ Outdoor ใบจิ๋วลาย Hello Kitty ของแท้ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับประโยคแรกที่ผมว่ามาเลย แต่เห็นว่าแปลกดีเลยถ่ายรูปเก็บไว้

Japan Trip : Tokyo Sky Tree

ว่าแล้วเราก็มาที่ดาดฟ้าของ TOKYO Solamachi เพื่อที่จะได้เดินไปที่ฐานของ TOKYO SKYTREE กัน

Japan Trip : Tokyo Sky Tree

จุดเด่นอย่างหนึ่งของ TOKYO SKYTREE คือชุดสีของไฟที่ใช้ประดับหอ ซึ่งจะมีการเปลี่ยนชุดไฟตามเทศกาลต่าง ๆ ช่วงที่ผมไปนั้น เป็นช่วงเทศกาลชมซากุระพอดี ซึ่งชุดไฟที่ใช้ประดับจะเป็นชุด Saki ซึ่งเป็นไฟสีขาวที่ตัวหอและสีชมพูเฉพาะชั้นหอสังเกตุการณ์ด้านบน

Japan Trip : Tokyo Sky Tree

เปิดสลับกับชุด Mai ที่เป็นไฟสีชมพูทั้งตัวหอ สำหรับหลอดไฟที่ใช้ในการประดับหอนั้น เป็นหลอดไฟ EVERLED จากทาง Panasonic หนึ่งในผู้สนับสนุนของ TOKYO SKYTREE ครับ

Japan Trip : Tokyo Sky Tree

สำหรับการขึ้นไปยังส่วนบนของ TOKYO SKYTREE เราจะต้องซื้อตั๋วที่ห้องขายตั๋วที่ฐานเสียก่อน ค่าตั๋วสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ 2,000 เยนต่อคน เมื่อซื้อตั๋วแล้ว ก็ต้องรอเข้าคิวขึ้นลิฟต์ไปยัง TOKYO SKYTREE TEMBO DECK ซึ่งอยู่สูงจากพื้นดิน 350 เมตร

Japan Trip : Tokyo Sky Tree

เมื่อเราขึ้นลิฟต์มาแล้ว บรรยากาศภายในลิฟต์จะมืดสลัว ๆ มีเปิดไฟเป็นพัก ๆ ข้างในลิฟต์ตกแต่งด้วยไฟต่าง ๆ สวยงามมาก พร้อมทั้งจอบอกว่าลิฟต์วิ่งขึ้นไปสูงกี่เมตร และด้วยความเร็วเท่าไร

Japan Trip : Tokyo Sky Tree

และเราก็มาถึง TEMBO DECK ที่อยู่บนชั้น 350 ของ TOKYO SKYTREE แล้ว ไฟประดับด้านใน ก็ใช้เป็นสีชมพู เพื่อเป็นการฉลองเทศกาลซากุระเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม พวกผมพลาดท่ากันพอสมควรตั้งแต่ตอนถ่ายรูปหอข้างล่าง คือไม่ได้สังเกตุว่าข้างบนหมอกมันลงจัด แทนที่จะได้ดูวิวโตเกียวยามค่ำคืน เราเลยได้ดูทะเลหมอกแทน

Japan Trip : Tokyo Sky Tree

ที่ชั้น 350 จะมีวิดีโอแนะนำ TOKYO SKYTREE เปิดให้ชม และมีบริการถ่ายรูปกับโมเดล TOKYO SKYTREE โดยมีพื้นหลังเป็นวิวของโตเกียว ถึงแม้ว่าวันที่ไปหมอกจะลง แต่ก็ยังมีคนเข้าคิวถ่ายรูปกันอยู่พอควร

Japan Trip : Tokyo Sky Tree

สำหรับคนที่จะขึ้นไปยัง TOKYO SKYTREE TEMBO GALLERIA ชั้นที่สูงกว่า จะต้องซื้อตั๋วจากที่ชั้นนี้ เนื่องจากหมอกลงจัด เลยมีป้ายเตือนติดไว้ ผมเลยไปแอบบ่น ๆ กับเจ้าหน้าที่ว่าน่าจะติดป้ายเตือนแบบนี้ตั้งแต่ข้างล่างเลย เจ้าหน้าที่ก็กล่าวขอโทษและโค้งให้อยู่หลาย ๆ ที

Japan Trip : Tokyo Sky Tree

ที่นี้จะมีสำเนาภาพวาดโบราณ Edo Hitomezu Byobu จัดแสดงอยู่ ภาพวาดภาพนี้เป็นภาพที่แสดงวิวของเอโดะทั้งหมด ซึ่งคณะผู้สร้าง TOKYO SKYTREE ได้รับแรงบันดาลใจในการเลือกสถานที่ตั้งจากภาพวาดภาพนี้ครับ

Japan Trip : Tokyo Sky Tree

พอข้างบนไม่มีอะไรดูแล้ว ก็ลงบันไดเลื่อนมาที่ชั้น 345 ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านขายของที่ระลึก THE SKYTREE SHOP ไว้คอยหลอกเอาเงินพวกเราอยู่อีกด้วย สำหรับร้านขายของที่ระลึกของที่นี้ จะมีอยู่ทั้งหมดสามแห่ง คือ บนหอชั้น 345 ตรงทางออกหอที่ชั้น 5 และที่ชั้น 1 ครับ แต่ร้านขายของบนชั้น 345 จะมีสินค้าหลาย ๆ ตัวที่ไม่ได้วางขายที่ร้านอื่น ๆ อยู่ เช่น สินค้าเครื่องหนัง เครื่องประดับเงิน คริสตัล ขนมบางอย่าง เป็นต้น ซึ่งทางร้านจะติดโลโก้รูปดาวเอาไว้

Japan Trip : Tokyo Sky Tree

ลงบันไดมาที่ชั้น 340 มีคาเฟ่ SKYTREE CAFE เสริฟเครื่องดื่ม ขนม อาหารจานเดียว แต่ผมไม่ได้เข้าไปกิน

Japan Trip : Tokyo Sky Tree

ตรงชั้นนี้จะมีส่วนที่เรียกว่า GLASS BOTTOM ซึ่งจะเป็นพื้นกระจกให้เรามองลงไปข้างล่างได้

Japan Trip : Tokyo Sky Tree

และถ้ามันหวาดเสียวไม่พอ ก็มี GLASS FLOOR ที่เราสามารถยืนบนกระจกได้เลย ซึ่งเราสามารถมองลงไปเห็นถึงถนนด้านล่างผ่านพื้นกระจกนี้ได้ แต่หมอกลงจัดเลยเป็นอย่างที่เห็น

Japan Trip : Tokyo Sky Tree

พอไม่มีอะไรให้ดูหรือถ่ายรูป บวกกับหิว พวกผมก็เลยลงจากหอ

สังเกตชุดที่พนักงานของที่นี้ใส่ แต่ละตำแหน่งจะใส่เครื่องแบบต่าง ๆ กัน ซึ่งงานออกแบบโดยรวมแล้วน่ารักดี

Japan Trip : Tokyo Sky Tree

ลิฟต์จะพามาลงมาส่งที่ชั้น 5 ซึ่งก็จะมีร้าน SKYTREE SHOP มาหลอกเอาเงินอีกที แต่ของชั้นนี้ขายเยอะกว่า

สำหรับสาวน้อยผมทรงซุปเปอร์ไซย่า มีชื่อว่า Sorakara-chan เป็นมาสค็อตของ TOKYO SKYTREE ซึ่งตัวเธอส่องกล้องส่องทางไกลมาเห็น TOKYO SKYTREE ก็เลยลงเที่ยวที่โตเกียวกับเพื่อน ๆ ของเธอ ซึ่งมีแพนกวิน Teppen-Pen กับหมาบลูด็อก Sukoburu-Buru และพวกเขาก็กลายเป็นสินค้ามาหลอกเงินของพวกเรากัน

Japan Trip : Shinagawa

ขากลับไปโรงแรมที่พักตรงย่านชินางาวะ ตอนผมดูจาก Hyperdia จะต้องต่อรถไฟหลายสายกลับ แต่ผมถามเจ้าหน้าที่ พบว่ามีสายรถด่วนของ Keisei ที่วิ่งไปสนามบินฮาเนดะนั้นผ่านสถานีชินางาวะพอดี ก็เลยขึ้นคันนี้มา ตอนอยู่บนรถไฟก็นั่งลุ้นว่ามันจะจอดให้ลงที่ชินางาวะหรือเปล่า พอมันจอดเท่านั้นแหละ เหมือนยกภูเขาออกจากอกเลย

Japan Trip : Shinatatsu Ramen

ว่าแล้วก็ตามหาของกินต่อ พอดีผมเปิดเว็บ Japan Guide แล้วจำได้ว่าย่านนี้มีร้านราเมง Shinatatsu Ramen ที่รวมเอาร้านจากยอดฝีมือทั่วญี่ปุ่นมาอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งต้องเดินตามเส้นทางรางรถไฟไป

Japan Trip : Shinatatsu Ramen

สำหรับร้านที่ผมเลือกทานก็จะเป็นร้าน Moukotanmen Nakamoto ซึ่งขึ้นชื่อในทันเมนหรือราเมนหน้าผักสไตล์โตเกียวครับ

Japan Trip : Shinatatsu Ramen

ความพิเศษของทันเมนร้านนี้คือจะเป็นซุปแบบเผ็ดทั้งหมด ซึ่งแต่ละเมนูก็จะมีระดับความเผ็ดแตกต่างกันไป

Japan Trip : Shinatatsu Ramen

ช่วงที่ไปนั้น เหล่าพนักงานบริษัทยังนั่งกินกันอยู่ เลยต้องรอต่อคิวกันพอสมควร คนในรูปทางขวาก็คือเจ้าของร้านนี้แหละครับ

สำหรับร้านราเมงต่าง ๆ ที่อยู่ใน Shinatatsu Ramen จะใช้ระบบตู้ขายตั๋วอาหาร คือต้องใส่เงิน กดเมนูที่ต้องการจากตู้ แล้วเอาตั๋วที่ได้ให้พนักงาน ซึ่งร้านที่ผมกิน นอกเหนือจากเมนูยอดฮิตสามอย่างที่อยู่หน้าร้าน ที่เหลือเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วน พวกผมเลยอดสั่งออปชั่น อย่างไข่ออนเซ็นอะไรแบบนี้เพิ่มเลย

Japan Trip : Shinatatsu Ramen

ร้านนี้มีคนดังมาทานกันมากมาย ออกรายการทีวี และมีบริษัทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเอาเมนูที่ร้านไปทำขายด้วย

Japan Trip : Shinatatsu Ramen

สำหรับเมนูที่สั่งทานก็มี Mizo Tanmen เผ็ดระดับ 3 เป็นทันเมนดั้งเดิม น้ำซุปเผ็ดร้อนพริกไทย ชามนี้ไม่โดนเท่าไร เพราะไม่มีเครื่องอะไร นอกจากผัก

Japan Trip : Shinatatsu Ramen

อีกชามเป็น Gomokumouko Tanmen เผ็ดระดับ 6 เป็นทันเมนเนื้อตุ๋นรสเผ็ด มีผัก เนื้อตุ๋น คอลลาเจน ไข่ต้ม น้ำซุปยังเป็นแนวเผ็ดร้อนพริกไทยเหมือนเดิม ชามนี้น่าจะถูกปากคนไทยที่ชอบรสผิดไม่น้อย แต่เส้นบะหมี่ของร้านนี้จะไปทางแข็ง อาจจะไม่ถูกปากทุกคนนัก

Japan Trip : Shinagawa

พอทานข้าวเย็นกันเสร็จ ก็ไปเดินเล่น 7 – 11 แถว ๆ โรงแรม ซื้อน้ำและขนมกลับห้อง ตอนเดินในนั้นเลือบไปเห็นชั้นขายบัตรเติมเงินและเกมดาวน์โหลดของ Nintendo 3DS ขอบคุณที่ผมไม่ได้ติดเกมมือถือ เลยไม่ได้เสียเงินตรงนี้ นอกจากบัตร iTunes ที่ซื้อวันสุดท้าย เพราะอยากซื้อเพลงที่อยากฟังในนั้น

Japan Trip : Shinagawa

ของหวานที่ซื้อมามีไอศครีมชาเขียว Häagen-Dazs กับโมจิของ LOTTE ซึ่งก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้กินไอศครีมยี่ห้อนี้นี่แหละ เมืองไทยราคาแพงมาก สู้ไม่ไหว

ตอนต่อไป เราจะไปเที่ยว Tokyo Disneyland กันครับ

5 thoughts on “เที่ยวญี่ปุ่น : ชมทะเลหมอกบน TOKYO SKYTREE และชิมราเมนระดับยอดฝีมือที่ย่านชินางาวะ

  1. Pingback: เที่ยวญี่ปุ่น : GUNDAM FRONT TOKYO และโอไดบะยามค่ำคืน

  2. Pingback: เที่ยวญี่ปุ่น 2 : ตึก Fuji TV พิพิธภัณฑ์ Sony ExploraScience และเทพีเสรีภาพ ที่โอไดบะ

  3. Pingback: เที่ยวญี่ปุ่น 2 : ชมวิวบน Tokyo Tower

  4. Pingback: เที่ยวญี่ปุ่น : ชมการแสดงสด ๆ ของสาว AKB48 ที่ AKB48 Theater ก่อนกลับบ้าน | Silhouette Garden

  5. Pingback: เที่ยวญี่ปุ่น 2 : เดินเล่นใน TOKYO Solamichi | Silhouette Garden

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *