เป้าหมายการมาเมือง Miyako ของผมคือการมาต่อรถไฟ Sanriku Tetsudo เพื่อเดินทางต่อไปยังเมือง Kuji ซึ่งเป็นไฮท์ไลท์การมาเที่ยว Iwate ของผม แต่เมือง Miyako เองก็มีสถานที่ขึ้นชื่ออย่างหาด Jodogahama ที่ติดอันดับหาดที่มีความสวยงามในญี่ปุ่น
ไหน ๆ มาถึงที่ทั้งทีแล้ว จะไม่แวะไปดูก็เสียดาย เลยต้องแวะไปดูหาดที่ว่านี้กันสักหน่อย
การเดินทางไปยังหาด Jodogahama ทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่ดูจะประหยัดเงินที่สุดคือการนั่งรถบัสกับการปั่นจักรยาน ตอนแรกผมตั้งใจจะนั่งรถบัสไป แต่ตารางเวลารถบัสไป – กลับหาดและเวลารถไฟไป Kuji ออกค่อนข้างกระชันชิดกันไป ผมเลยตัดสินใจปั่นจักรยานไปแทน
สำหรับการเช่าจักรยานในเมือง Miyako นั้น ที่ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวด้านหน้าสถานีจะมีจักรยานให้เรายืมไปปั่นได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพียงแค่ลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ข้างใน เจ้าหน้าที่จะเขียนเส้นทางปั่นจักรยานให้ แล้วพาออกมาเอาจักรยานที่ลานจอดรถใกล้สถานี
จักรยานที่ให้ยืมเป็นจักรยานแม่บ้านทั่ว ๆ ไป สภาพภายนอกค่อนข้างเก่า แต่เกียร์และเบรคยังทำงานได้ดีอยู่
เจ้าหน้าที่อธิบายเส้นทางที่ไปหาด มีระยะทางประมาณ 3 กม. ใช้เวลาปั่นประมาณครึ่งชม. แต่พอปั่นจริง ๆ เจอเส้นทางบางส่วนถูกปิดเพื่อทำการก่อสร้าง จึงต้องปั่นขึ้นเหนือไปมากกว่าเดิม แล้วอ้อมลงมาอีกที
จุดปั่นที่ผมว่ายากสำหรับคนทั่ว ๆ ไป ที่ไม่ได้ปั่นจักรยานทุกวันอย่างผม คือมีเนินที่ต้องออกแรงปั่นเยอะอยู่ 2 ช่วง ช่วงแรกคือช่วงโค้งแรกที่จะตีขึ้นเหนือในแผนที่
อีกจุดคือช่วงทางตรงสุดท้ายที่จะไปยังปลายทาง ซึ่งจุดนี้ถนนชันมาก จักรยานแม่บ้านปั่นไม่ขึ้น ต้องลงเดินแล้วเข็นรถแทน ส่วนขากลับลงมา ถ้าเบรคไม่อยู่ก็เตรียมร่อนลงทะเลได้เลย
ผมใช้เวลาปั่นจักรยานอยู่ประมาณ 40 นาทีก็ถึงที่จอดรถของ Jodogahama Visitor Center ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Sanriku Fukko ซึ่งกินอาณาเขตชายฝั่ง Sanriku ตั้งแต่เมือง Hachinohe จังหวัด Aomori ไล่ลงไปถึงเมือง Kesennuma จังหวัด Miyagi
มองลงไปข้างล่างจากที่จอดรถ จะเห็นทางเดินเลียบไปตามแนวหาด และจุดจอดเรือ Miyako Jodogahama Boat Cruise ที่จัดทัวร์พาชมพื้นที่บริเวณชายฝั่งและให้อาหารนกนางนวลในทะเล
การลงไปยังทางเดินข้างล่าง จะต้องลงบันไดหรือลิฟต์ใน Visitor Center ลงไป
เดินไปตามทางเดิน จะเจออุโมงลอดใต้หน้าผาไปยังอีกฝั่งหนึ่ง
Pingback: ตามรอยละคร Amachan : นั่งรถไฟ Sanriku Tetsudo ไปเมือง Kuji | Silhouette Garden