จุดประสงค์หลักของการไปเที่ยวจังหวัด Iwate ของผม คือการไปตามรอยสถานที่ที่เป็นแรงบันดาลใจและใช้ถ่ายทำละครเช้า (Asadora) ของ NHK เรือง Amachan หรือชื่อไทย “อามะจัง เด็กน้อยนักดำน้ำ” ที่เคยแพร่ภาพในไทยไป

ผมเริ่มต้นการตามรอยละครของผมด้วยการนั่งรถไฟของบริษัท Sanriku Tetsudo หรือที่รู้จักในละครกันในชื่อ Kitasanriku Tetsudo เพื่อไปยังเมือง Kuji ที่ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำครับ

เส้นทางของรถไฟสาย Kita-Rias ที่ผมใช้เดินทางไปเมือง Kuji

Sanriku Tetsudo หรือ Santetsu เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างเอกชนกับราชการ (Third Sector) ให้บริการเดินรถไฟในเส้นทางรถไฟที่อดีตเป็นของบริษัท Japan National Railways (JNR) เป็นบริษัทแรกในญี่ปุ่น ซึ่งเส้นทางที่ Santetsu ให้บริการจะมีอยู่ 2 เส้นทาง คือ สาย Kita-Rias ระหว่างเมือง Miyako กับ Kuji และ Minami-Rias ระหว่างเมือง Sakari กับ Kamaishi

บริษัทรถไฟ Kitasanriku Tetsudo หรือ Kitatetsu ในละคร Amachan ก็ได้ต้นแบบมาจากบริษัท Santetsu และสายรถไฟ Kita-Rias รวมทั้งนำขบวนรถของบริษัทมาใช้เพื่อการถ่ายทำครับ

หลังจากที่ผมเอาจักรยานไปคืนและเอากระเป๋าที่ฝากไว้จากสถานีรถไฟของ JR ในตอนที่แล้ว ผมก็เดินต่อไปยังสถานีรถไฟของ Santetsu ที่อยู่ใกล้ ๆ กัน

ภายในตัวสถานีไม่ได้ใหญ่มาก ตอนที่ไปใกล้เวลารถไฟออก จึงมีคนมารอรถไฟกันเต็มสถานี หลาย ๆ คนก็เป็นนักท่องเที่ยวที่กลับมาจากหาด Jodogahama ที่ผมปั่นจักรยานไปมาในตอนก่อนหน้านี้

การซื้อตั๋วรถไฟนั้น สามารถซื้อได้จากตู้ขายอัตโนมัติหน้าเคาท์เตอร์ โดยการใส่เงินค่าโดยสารให้เพียงพอ แล้วกดปุ่มสถานีที่จะลง ซึ่งสถานี Kuji ที่เป็นจุดหมายปลายทาง จะเขียนด้วยคันจิ 久慈 ราคา 1,850 เยน (แถวที่ 3 ปุ่มที่ 5)

เนื่องจาก Sanriku Tetsudo เป็นรถไฟเอกชน และไม่ได้เข้าร่วมตั๋วเบ่งใด ๆ ของ JR ผมจึงไม่สามารถใช้ JR East Pass ที่มีอยู่แทนค่าโดยสารได้

นอกจากนี้ภายในสถานียังมีการจัดจำหน่ายเครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยวต่าง ๆ รวมทั้งของที่ระลึกต่าง ๆ ทั้ง Tetsudou Musume ที่ได้มีการออกตัวละครในชุดเครื่องแบบของบริษัท และสินค้าจากละคร Amachan

ตรงทางเข้าออกสถานีจะมีรูปปั้นสัตว์ตั้งอยู่ ซึ่งแต่ละสถานีก็ตั้งรูปปั้นของสัตว์ที่แตกต่างกัน

รถไฟที่ Santetsu ใช้วิ่งในเส้นทางของตน จะเป็นรถไฟดีเซล (DMU) รุ่น 36-100 และ 36-200 ซึ่งจะแตกต่างกันที่รูปแบบการวางที่นั่งภายใน ส่วนภายนอกนั้นจะมีหน้าตาคล้ายกัน และทาสี 3 สีที่เป็นสัญลักษณ์ของบริษัทคือสีน้ำเงิน สีแดง และสีขาว ซึ่งมีความหมายคือทะเล Sanriku ความหลงไหลในรถไฟ และความซื่อสัตย์

ผมเข้าไปนั่งขบวนท้าย ซึ่งมีเลขขบวนคือ 300-101 ภายในก็จะมีที่นั่งแบบหันหน้าเข้าหากันและที่นั่งริมหน้าต่าง

ข้างท้ายขบวนจะมีห้องน้ำอยู่ ซึ่งผมคิดว่าเหมาะมากกับการเดินทางที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.ครึ่ง

พอถึงเวลา รถไฟก็ออกเดินทางจากสถานีครับ