Shiritsu Ebisu Chugaku Tobidase Zen10 Hall Tour 2015 ~Wakku Waku Haru Balloon GoGo~ เป็นการทัวร์คอนเสิร์ตไปตามฮอลล์ในเมืองใหญ่ต่าง ๆ ทั่วญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกของวง ซึ่งระยะเวลาการทัวร์คือตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนไปจนถึงเดือนพฤษพาคม จำนวน 10 รอบ แต่พอตอนทัวร์ใกล้ ๆ จบ ทางวงก็เพิ่มรอบอีก 3 รอบ ในอีก 3 เมือง ซึ่งรอบที่ผมดูคือรอบสุดท้ายของทัวร์นี้ครับ

วิวจากที่นั่งของผม อยู่ทางปีกซ้ายของชั้น 2 รูปจาก NHK Hall

ความรู้สึกแรกของผมที่ได้เข้าไปในฮอลล์คือ มันใหญ่กว่าที่เคยเห็นในรายการคอนเสิร์ตขาว – แดงของ NHK ตอนปีใหม่มาก ซึ่งเวลาเราดูรายการคอนขาว – แดง ปกติเขาจะถ่ายคนดูตรงบริเวณชั้น 1 มากกว่า เลยรู้สึกว่าฮอลล์มันดูเล็ก แต่ถ้ารวมชั้น 2 และ 3 เข้าไป มันจะดูเป็นฮอลล์ที่ใหญ่ขึ้นมา สมกับขนาดความจุ 3,800 ที่นั่งในทันที

ธีมของทัวร์คอนเสิร์ตรอบนี้ คือการแสดงเทพนิยายของงานโรงเรียน ซึ่งในงานแต่ละรอบ ก็จะมีสมาชิกหนึ่งคนถูกเลือกเป็นกวีที่จะมาเล่าเรื่องราว สำหรับรอบนี้ก็ได้อายากะมาทำหน้าที่นี้ ร่วมกับแขกรับเชิญคือสองพี่น้องวง Charan-Po-Rantan ซึ่งเป็นคนแต่งเพลง Ginyuushijin ที่เป็น c/w ของ Natsudaze Johnny เวอร์ชั่นทัวร์

ส่วนเนื้อเรื่อง เท่าที่ผมจับใจความได้ คือวณิพกชายต้องการจะบอกความรู้สึกกับหญิงสูงศักดิ์ ซึ่งคอนเสิร์ตก็เริ่มต้นด้วย วณิพกโผล่ตรงคนดูโซนหน้า แล้วเดินขึ้นเวที จากนั้นอายากะก็โผล่ออกมาเกริ่นนำเนื้อเรื่อง โดยมีโคฮารุวง Charan-Po-Rantan มาเล่นแอคคอร์เดียนคลอไป

พอเกริ่นนำจบ โคฮารุก็เปลี่ยนไปเล่นเพลง ebiture จากนั้นสมาชิกในวงที่เหลือก็ออกมาบนเวที ในชุดกวี ซึ่งปกติในรอบก่อนหน้า จะใส่เฉพาะคนที่ได้รับเลือกเท่านั้น และเริ่มต้นคอนเสิร์ตด้วยเพลง Natsudaze Johnny อย่างอลังการ

เซ็ตลิสต์ที่จัดออกมา จะเป็นเพลงจากอัลบั้ม Kinpachi เป็นส่วนใหญ่ ความเร็วของเพลงในเซ็ตมีแต่เร็ว เร็วมาก เร็วที่สุด ผมเองเชียร์ตามไป 4 – 5 เพลงก็เหนื่อยแล้ว แต่สมาชิกวงไม่มีหมดแรงกันเลย เต้นแรง ร้องเพลงกันเต็มเสียงตลอด แต่ที่ทำผมอึ้งสุด ๆ คือ ไอไอ (เลขที่ 6) กระโดดตีลังกาในเพลง Houkago Getabako Rock ‘n’ Roll MX เรียกเสียงเฮจากคนดูกันยกใหญ่

ช่วงท้ายของคอนเสิร์ต สมาชิกในวงพร้อมใจกันนำช่อดอกไม้และร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้อายากะด้วย ตอนร้องเพลง สมาชิกแต่ละคนก็จะเขามาแตะตัวอายากะบ้าง เข้ามากอดบ้าง แต่ที่พิเศษคือรินะนัน (เลขที่ 9) ที่เข้ามากอดอายากะทีนึง แล้วก็ออกมาจ้องหน้า จากนั้นก็กอดอีกที อายากะที่กำลังซึ้ง ๆ อยู่ ก็เลยร้องไห้ออกมาเลย

ปิดท้ายคอนเสิร์ตด้วยวิดีโอเครดิตพร้อมเบื้องหลังของฮอลล์ทัวร์ครั้งนี้ ซึ่งก็มีเบื้องหลังจากฮอลล์แรก ๆ ที่วงไปเล่น จนถึง NHK Hall ซึ่งเป็นสถานที่สุดท้ายของทัวร์นี้ เมื่อวิดีโอเล่นจบ แฟน ๆ กำลังจะตะโกนขออังคอร์ ก็มีเสียงประกาศปิดงานดังออกมา แต่คนดูในงานไม่สนใจ และตะโกนขออังคอร์กันต่อ ไม่นานนัก สมาชิกวงก็ออกมาด้วยชุดเดิม และเล่นเพลง Eien ni Chuugaksei ก่อนที่จะกลับเข้าไปหลังเวที

ดูเหมือนว่าอังคอร์แค่เพลงเดียว จะไม่ตอบโจทย์ของคนที่มาดูคอนเสิร์ตมากนัก คนดูทั้งฮอลล์เลยพร้อมใจตะโกนขออังคอร์กันต่อ ซึ่งระหว่างที่ตะโกนขอ ก็มีเสียงประกาศปิดงานจากเจ้าหน้าที่มาอีก 2 ครั้ง จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ ๆ 20 นาที สมาชิกของวงต้องมาประกาศปิดงานเอง ทุกคนถึงจะยอมกลับไป

ตอนแรกผมเข้าใจว่าคอนเสิร์ตรอบนี้ อาจจะไม่ได้มีแผนสำหรับอังคอร์ไว้ คือเปิดวิดีโอเครดิต แล้วปิดงานเลย แต่แฟมิลี่ดื้อกัน เลยต้องยอมออกมาเล่นอังคอร์ให้เพลงนึง แต่พอมาอ่านรีพอร์ตทีหลัง เลยรู้ว่าคอนเสิร์ตรอบก่อนหน้า ไม่มีการเล่นอังคอร์อยู่แล้ว มีแค่รอบนี้รอบเดียวที่เล่นเท่านั้น

จบคอนเสิร์ต ออกมาจากฮอลล์ เจอช่อดอกไม้ที่ทีมงานเอามาวางเรียงกันใหม่ในล็อบบี้ไว้ คนที่มาดูรุมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน

ทีมงานนำสินค้าของคอนเสิร์ตมาขายอีกรอบเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกับนำตัวอย่างเสื้อยืดของงาน Famien’15 ที่เพิ่งประกาศ (ในตอนนั้น) มาโชว์ด้วย

สำหรับสินค้าหน้าคอนที่เหลือจะถูกนำไปขายที่เว็บ Smooch ต่ออีกทีจนหมด คนที่อยากได้ของหน้าคอน แต่ไม่มีโอกาสไป ก็ต้องเฝ้าเวลาหลังคอนจบดี ๆ

ผมไม่มีซื้อของอะไรแล้ว ก็เดินออกจากฮอลล์มา ซึ่งตอนออกเจ้าหน้าที่จะแจกใบปลิวโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับวงให้ ทั้ง Black Tiger, คูปองลดราคาของ Circle K, แฮนด์บิลหนังที่สมาชิกของวงไปเล่น เป็นต้น

ขากลับก็เดินผ่านถนนด้านข้างในสวนโยโยหงิกลับไปยังชิบูย่าเหมือนตอนขามา

ผมไม่ลืมที่จะแวะ HMV สาขาชิบูย่า ที่เน้นขายแผ่นเสียง จนได้ชื่อห้อยท้ายว่า record shop ซึ่งแผ่นเสียงที่ผมซื้อคือ แผ่นเสียงเพลงประกอบจากหนังเรื่อง Tamako-chan and Kokkubo ที่ไอไอเล่นเป็นนางเอก และมีขายแค่ที่ HMV เท่านั้น

ผมตั้งใจว่าจะแวะไปกินข้าวเย็นที่ Sushi no MIDORI ที่ Shibuya Mark City สักหน่อย แต่ร้านดันปิดรับคิวแล้ว เลยมาจบที่ Nissin Cup Noodles รสต้มยำกุ้งและไก่ทอด Karaage-kun Red จาก Lawson แถว ๆ โรงแรมแทน

รสชาติของ Cup Noodles ก็คล้าย ๆ กับของที่ไทย แต่ด้วยเส้นที่เหนียวนุ่ม ปริมาณเครื่องที่ขนาดใหญ่และเยอะกว่า ก็ทำให้มันอร่อยกว่าเวอร์ชั่นของไทยมาก

ตอนหน้า จะเล่าถึงการไปดูคอนเสิร์ต GEM Live Mixture2015 ～2nd Anniversary～ ของวง GEM กัน อย่าลืมติดตามกันนะครับ