หลังจากที่ผมได้เดินชมรถไฟต่าง ๆ ที่ถูกจัดแสดงอยู่ใน History Zone ตรงชั้น 1 ของพิพิธภัณฑ์ The Railway Museum ในบล็อกตอนที่แล้ว ผมก็ขึ้นมายังชั้น 2 ของพิพิธภัณฑ์ เพื่อมาดูส่วนที่เหลือของ History Zone ต่อครับ
ชั้น 2 ตรงบริเวณ History Zone นั้น จะมีการจัดแสดงตารางแสดงเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ของรถไฟญี่ปุ่น ตั้งแต่ยุคเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน ซึ่งด้านล่างตารางจะเป็นตู้จัดแสดงสิ่งของหรือแบบจำลองที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้น ๆ เอาไว้
อย่างเหตุการณ์ที่ Japan National Railways (JNR) ถูกแปรรูปเป็นบริษัทเอกชน Japan Railways Group (JR) เขาก็จะนำป้ายที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้มาจัดแสดง
หรือการเปิดตัวบัตร Suica ที่คนเคยไปญี่ปุ่นน่าจะได้มีโอกาสใช้งานกัน
นอกจากนี้ในตู้ยังมีการปล่อยรถไฟจำลองวิ่งไปมาระหว่างตู้จัดแสดงทั้ง 2 ฝั่งด้วย
ติดกับตู้จัดแสดง จะเป็นห้องจัดแสดงโมเดลรถไฟจำลองซึ่งด้านนอกห้องทำเป็นอาคารเลียนแบบสถานีรถไฟ ส่วนเหนือห้องจัดแสดงที่มีที่กั้นกระจกอยู่คือจุดชมรถไฟ Shinkansen ซึ่งอยู่บนชั้น 3 ของพิพิธภัณฑ์ ตำแหน่งเดียวกับที่ผมถ่ายรูปเก็บไว้ตอนนั่งรถไฟกลับโตเกียวจากอาโอโมริ
ถัดจากห้องจัดแสดงโมเดลรถไฟจะเป็นทางเดินไปยังส่วนอื่น ๆ ของพิพิธภัณฑ์ เช่น ห้องจัดแสดง ห้องสุมด รวมถึงร้านขายของที่ระลึกด้วย
เดินตามทางเดินไปเรื่อย ๆ จะเจอห้องเรียนการขับรถไฟไว้ให้คนที่สนใจได้มาลองสัมผัสประสบการณ์การขับรถไฟ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเสียเงินเพิ่มและจองเวลาก่อน
ถัดมาก็จะเจอ Collection Gallery ซึ่งเป็นห้องจัดแสดงที่อัดแน่นไปด้วยสิ่งของต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถไฟ
สิ่งของที่นำมาจัดแสดงก็มีตั้งแค่ของชิ้นเล็ก ๆ อย่างป้าย โมเดล ไปจนถึงของชิ้นใหญ่ ๆ อย่างเครื่องออกตั๋ว ชิ้นส่วนรางรถไฟ ฯลฯ
สุดทางเดินจะเป็น Learning Zone ซึ่งเป็นส่วนให้ความรู้เกี่ยวกับการทำงานของรถไฟที่ผู้ชมสามารถเข้าไปลองกดเล่นได้ ซึ่งตอนที่ผมไป ส่วนนี้จะอยู่ตั้งแต่ชั้น 1 – 3 และมีบันไดเชื่อมถึงกันได้
แต่จากการเช็คข้อมูลตอนเขียนบล็อก ผมเจอว่าเขาปรับปรุงส่วนนี้ใหม่ โดย Leaning Zone เดิมถูกยุบเหลือเพียงชั้น 2 – 3 แล้วตั้งชื่อใหม่เป็น Science Station แทน ส่วนขั้น 1 ถูกปรับปรุงเป็น Kids’ Plaza
ที่ห้องนี้เราสามารถมองเห็นรางรถไฟขนาดเล็ก (เสียเงินเพิ่มถ้าจะขึ้น) และอาคารห้องสมุด
สำหรับคนที่อยากจะเห็นรถไฟ Shinkansen นอกจากจุดชมรถไฟที่ชั้น 3 แล้ว ยังมีที่ดาดฟ้าของพิพิธภัณฑ์อีกจุดที่สามารถชมรถไฟได้
ผมกลับลงมาที่ชั้น 1 ก็เจอร้านขายของที่ระลึกอีกร้าน ซึ่งผมสังเกตดูว่าร้านนี้จะเน้นขายขนม ในขณะที่ร้านข้างบนจะเน้นขายหนังสือและของเล่น
ใครที่สนใจลองขับรถไฟ แต่รู้สึกว่าห้องเรียนขับรถไฟมันดูซีเรียสไป ที่ชั้น 1 ก็มีรถไฟจำลองให้ลองขับได้ แต่เสียเงินเพิ่มและต้องจองก่อนเหมือนห้องข้างบน
เนื่องจากพิพิธภัณฑ์เขาไม่ให้เอาบัตรเข้าพิพิธภัณฑ์กลับบ้าน ตอนขากลับเขาจะแจกการ์ดให้เราไว้เก็บเป็นที่ระลึกแทน โดยจะมีตัวปั้มที่ระบุวันที่ให้ปั้มใกล้ ๆ กับประตู
ตัวผมเองใช้เวลาอยู่ที่นี้เกือบ 4 ชั่วโมง ก็พอที่จะเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ในพิพิธภัณฑ์ได้พอสมควร ใครที่อยากลองขับรถไฟ หรือลองทานข้าวกล่องสถานี อาจจะต้องเผื่อเวลาไว้มากกว่านี้สักหน่อยครับ
ตอนหน้า ผมจะเขียนถึงการทานข้าวเย็นที่คาเฟ่ของคาเร็คเตอร์ไข่จอมกวน Gudetama อย่าลืมติดตามกันนะครับ