เที่ยวไต้หวัน 1 : เริ่มต้นเดินทางกับ EVA Air

EVA Air check in counters at Suvarnabhumi Airport

เมื่อปี 2016 ผมได้โพสถึงประสบการณ์เที่ยวที่ไต้หวันแบบสั้น ๆ ไป เพราะตอนนั้นบล็อกเที่ยวญี่ปุ่นยังลงไม่หมด แต่ตอนนี้ผมลงบล็อกเที่ยวญี่ปุ่นไปหมดแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะเขียนบล็อกการไปเที่ยวไต้หวันของผมแล้ว

อย่างที่เคยเกริ่น ๆ ไปบ้างแล้วว่า ทริปไต้หวันคราวนี้ จุดประสงค์หลัก ๆ คือไปเรื่องงานเป็นหลัก แต่เนื่องจากช่วงที่ไปเป็นวันเสาร์ – อาทิตย์ และมีวันหยุดราชการต่อกันอยู่พอดี เลยมีโอกาสอยู่เที่ยวต่อได้หลังจากงานเสร็จ

ผมเริ่มต้นทริปที่สนามบินสุวรรณภูมิอีกเช่นเคย ซึ่งรอบนี้ผมใช้บริการสายการบิน EVA Air ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่ม Star Alliance เช่นเดียวกับ ANA ที่นั่งไปญี่ปุ่นคราวที่แล้ว การเช็คอินไม่ติดขัดอะไร เพียงแต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าสายการบินได้ปรับเพิ่มน้ำหนักกระเป๋าเช็คอินมากขึ้นตามนโยบายของบริษัท

EVA Air Boeing 777-300ER

เครื่องบินที่ขึ้นเป็น Boeing รุ่น 777-300ER ตกแต่งลายปกติ ส่วนตัวก็คิดลึก ๆ อยากให้ได้เป็นลาย Hello Kitty

EVA Air Boeing 777-300ER

ภายในเครื่องจัดที่นั่งชั้นประหยัดเป็นแบบ 3 – 3 – 3 ทำให้ดูแน่นมาก

EVA Air Boeing 777-300ER

สีที่นั่งออกโทนมืด เลยรู้สึกว่าเครื่องดูเก่า ๆ เมื่อเทียบกับ Boeing 787 ของ ANA ที่นั่งในทริปที่แล้ว

EVA Air Boeing 777-300ER

แต่ที่ขัดใจมากคือบริเวณใต้ที่นั่งด้านหน้าของแถวด้านนอกสุด จะมีกล่องอุปกรณ์อยู่ข้างใต้ ซึ่งในแง่ของการวางเท้าไม่ค่อยมีปัญหา แต่มีปัญหากับการวางกระเป๋า เพราะที่ไม่พอ และแอร์จะไม่ให้เราวางกระเป๋าตรงนั้น แล้วหยิบกระเป๋าเราไปใส่บนช่องสัมภาระเหนือหัวแทน

EVA Air Boeing 777-300ER

หน้าจอความบันเทิงนั้นเป็นแบบจอสัมผัสคล้ายกับของ Boeing 787 ของ ANA แต่พอร์ตด้านล่างมีไม่เหมือนกัน ที่แน่ ๆ ยังมีพอร์ต USB สำหรับชาร์จไฟให้อยู่เหมือนเดิม

EVA Air Boeing 777-300ER

ส่วนติดต่อผู้ใช้ดูดีกว่าที่คิด มีหนัง รายการทีวี และเพลงให้ฟัง พวกวิดีโอส่วนมากจะมีซับไตเติลเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ก็ภาษาจีนมาให้ ส่วนเพลงนั้น เขามีส่วนเพลงญี่ปุ่นใหม่ ๆ ให้ฟังโดยเฉพาะด้วย

EVA Air inflight meal

ด้วยความที่ระยะเวลาอยู่บนเครื่องไม่ได้มีนานมากนัก (ประมาณ 4 ชม.) เมื่อเครื่องออกมาได้ไม่นาน แอร์ก็รีบเสริฟขนมปังก้อนและอาหารให้เลย

EVA Air Stir Fried Pork with Egg Noodle

อาหารบนเครื่องนั้น ถ้าไม่ได้สั่งอะไรพิเศษไป เขาจะมีเมนูให้เลือก 2 อย่าง คือหมูผัดกับหัวหอมและเห็ดสไลด์เป็นเส้น เสริฟพร้อมเส้นบะหมี่ไข่ และข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่นไก่ทอด ผมคิดว่าข้าวแกงกะหรี่หากินได้ง่ายกว่า เลยเลือกเมนูหมูผัดมาแทน ซึ่งรสชาติจัดว่าอร่อยทีเดียว แต่ปริมาณน้อยไปหน่อย

เครื่องเคียงและขนมจะเหมือนกันทั้งสองเมนูคือสลัดผัก ขนมกล้วย และผลไม้ และเมื่อทานอาหารเสร็จ แอร์ก็จะเริ่มเสริฟชาและกาแฟร้อนอย่างรวดเร็ว การเสริฟอาหารเครื่องดื่มต่าง ๆ จะหมดลงในช่วงเวลาชั่วโมงกว่า ๆ และบรรยากาศบนเครื่องก็กลับมาเงียบเหมือนเดิม

EVA SKY SHOP

ระหว่างอยู่บนเครื่อง ผมเห็นสินค้า Hello Kitty ลาย EVA Air ที่น่าสนใจในแค็ตตาล็อกสินค้า Duty Free อยู่ เลยพยายามจะขอซื้อดู แต่ก็ไม่สามารถซื้อได้ เพราะเขาไม่มีของ

EVA Air Boeing 777-300ER

ระยะเดินทางจากประเทศไทยไปยังไต้หวันจะอยู่ที่ประมาณ 4 ชม. ด้วยความที่เวลาบนเครื่องน้อย พนักงานบนเครื่องบินจึงดูรีบ ๆ เสริฟอาหารเสริฟน้ำกัน ส่วนตัวคิดว่าบริการตามมาตรฐาน แต่ไม่ได้ดีแบบประทับใจเหมือน JAL และ ANA ที่เคยขึ้นตอนไปญี่ปุ่น

Taiwan Taoyuan International Airport

ในที่สุดเครื่องบินก็ลงจอดที่อาคาร Terminal 2 ของสนามบินเถาหยวน ดีเลย์จากกำหนดการเดิมไปเกือบชั่วโมง

Taiwan Taoyuan International Airport

หลังจากผ่านขั้นตอนตม. และศุลกากรเรียบร้อย พวกผมก็โผล่ออกมาที่โถงผู้โดยสารขาเข้า

Taiwan Taoyuan International Airport

ตัวผมไม่ลืมที่จะแวะซื้อซิมการ์ดสำหรับไว้เล่นอินเตอร์เน็ตระหว่างที่อยู่ไต้หวัน ซึ่งราคาค่าบริการก็ไม่จัดว่าแพงมากเหมือนที่ญี่ปุ่น แต่ได้ความเร็วที่จัดว่าเร็วทีเดียว

Taiwan Taoyuan International Airport

ใครที่ต้องการชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์พกพาของตัวเอง ที่สนามบินจะมีเคาท์เตอร์ซึ่งติดตั้งเต้ารับสำหรับเสียบปลั๊กและพอร์ต USB จ่ายไฟ 5 V 2.1 A ให้บริการ

Taiwan Taoyuan International Airport

จากนั้นพวกผมก็เดินทางด้วยรถประจำทางเพื่อเข้าไปยังตัวเมืองไทเป ใช้เวลาประมาณเกือบ ๆ 2 ชม. ก็ถึงโรงแรมที่พักในวันแรก

ตอนหน้า ผมจะเขียนถึงร้านอาหารทะเลที่ทางเจ้าภาพงานเลี้ยง อย่าลืมติดตามอ่านกันนะครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *