หลังจากที่ออกจากหาด Jodogahama ผมตั้งใจรีบปั่นจักรยานเพื่อกลับไปยังสถานี Miyako ให้เร็วที่สุด จะได้รีบไปเมือง Kuji ต่อ แต่ดูจากเวลาแล้ว ผมคิดว่าไม่น่าจะปั่นไปทันเวลารถไฟ Santetsu ที่กำลังจะออกในช่วงนั้นได้
แถมเวลาตอนนั้นก็เกือบ ๆ เย็นแล้ว แต่ข้าวเที่ยงก็ยังไม่ได้กิน ผมเลยขี่จักรยานหาร้านอาหารในเมืองแทน
เนื่องจากเมือง Miyako นั้นเป็นเมืองชายทะเล อาหารขึ้นชื่อของที่นี้ก็คงนี้ไม่พ้นเมนูอาหารทะเลต่าง ๆ เช่น ดงบุริ ราเมงทะเล ซึ่งเท่าที่ผมทำการบ้านก่อนไป ก็จะมีร้าน Kaishuu ที่อยู่เยื้อง ๆ กับที่ว่าการเมือง Miayko ที่ดูน่าสนใจ
ปรากฏตอนไปถึง ร้านปิดรอบมื้อเที่ยงไปแล้ว อดกิน ผมเลยปั่นเข้ามาหาของกินในตัวเมืองแทน
พอตกช่วงบ่าย 3 – 4 คนในเมืองเริ่มเยอะขึ้น เข้าใจว่าเด็ก ๆ เลิกเรียนกันแล้ว
ระหว่างที่กำลังหาร้านอาหาร ผมผ่านห้าง Quatre ซึ่งน่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าเพียงห้างเดียวในเมืองนี้ เมื่อมีห้างสรรพสินค้า ข้างในคงต้องมีร้านอาหารแน่ ๆ ผมเลยตัดสินใจหาข้าวกินที่นี้
ขึ้นมาถึงชั้น 4 เจอร้าน Food Oasis Mansai ซึ่งเป็นร้านอาหารร้านเดียวในห้างนี้
เมนูอาหารของร้านจัดว่าครอบจักรวาลมาก มีตั้งแต่ข้าวหน้าต่าง ๆ ราเมน ไล่ไปถึงข้าวห่อไข่ สปาเก็ตตี้ แถมยังมีอาหารพื้นเมืองของจังหวัดอิวาเตะอย่างเรเมนอีกด้วย
การซื้ออาหารก็ให้กดจากตู้ขายคูปองหน้าร้าน แล้วก็เอาคูปองไปยื่นให้ที่เคาท์เตอร์ด้านใน พออาหารเสร็จ เขาก็จะเรียกให้เรากลับไปรับอาหารที่เดิมอีกที
ผมเลือกนั่งโต๊ะริมหน้าต่าง เพื่อจะได้ชมบรรยากาศในตัวเมือง Miyako ได้
เมนูที่ผมสั่งคือชุดข้าวหน้าไก่ (โอยะโกะด้ง) และอุด้งน้ำ เรื่องรสชาติผมคิดว่าอร่อยตามมาตรฐานของร้านอาหารในญี่ปุ่น พอดีตอนนั้นหิวมาก กินอะไรก็อร่อยแสงพุ่งหมด
ส่วนเครื่องดื่มนั้น น้ำเปล่า ชาเขียวร้อน กดได้ฟรี แต่ถ้าจะดื่มน้ำอัดลม ต้องใช้คูปองบาร์น้ำ
พอทานเสร็จ ยกถาดกับชามไปเก็บแล้ว ก็ถึงเวลาปั่นกลับสถานี เอารถจักรยานไปคืน แล้วก็เอากระเป๋าที่ฝากไว้ในห้องขายตั๋วของสถานี JR
ตอนหน้า ผมจะเขียนถึงการเดินทางไปยังเมือง Kuji ด้วยรถไฟ Sanriku Tetsudo กัน ใครสนใจก็อย่าลืมติดตามอ่านกันนะครับ
Pingback: ตามรอยละคร Amachan : นั่งรถไฟ Sanriku Tetsudo ไปเมือง Kuji | Silhouette Garden