เมื่อประมาณต้นเดือนที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสกลับไปที่ญี่ปุ่นอีกครั้งนึง เพื่อไปงานอีเวนท์เกี่ยวกับไอดอลต่าง ๆ ที่จัดในช่วงนั้น ก็เลยได้โอกาสมาเขียนบล็อกเล่าให้อ่านกันครับ
สำหรับที่มาของทริปนี้คือ ผมซื้อเทรดดิ้งการ์ดของวง Nogizaka46 มา แล้วดันไปได้การ์ดสำหรับงานอีเวนท์พอดี ซึ่งรายละเอียดที่รู้คราว ๆ ตอนนั้นคือ เขาจะเอาสมาชิกในวงมามอบของขวัญให้กับคนในอีเวนท์นี้ ผมก็เลยแบบว่า “เอาวะ โนกิไม่ค่อยจัดงานแนว ๆ นี้ เป็นไงเป็นกัน”
เริ่มต้นการเดินทางที่สนามบินสุวรรณภูมิ พอดีช่วงที่ผมไปนั้นเป็นเดือนเกิดของไอดอลที่ผมติดตามอยู่พอดี เลยแวะซื้อของขวัญที่ดูดี แต่ต้องแตกต่าง เลยแวะไปดูของที่ร้าน Jim Thompson ใน Duty Free นี้แหละ
ผมก็ซื้อเป็นกระเป๋าใบเล็ก ๆ ลายช้างไปสองใบ ประมาณนี้
สำหรับการเดินทางรอบนี้ ผมก็ยังไปกับ JAL เหมือนเดิม เพราะค่าตั๋วโดยรวมถือว่าไม่ถูกไม่แพงมาก แต่ได้บริการที่โอเคหน่อย แถมได้มีโอกาสขึ้นเครื่องบืนรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Boeing 787-8 Dreamliner ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเครื่องบินที่ใช้น้ำมันได้มีประสิทธิภาพที่สุดครับ
เก้าอี้ชั้นประหยัดยังคงเป็นดีไซน์แบบเก่าอยู่ ยังไม่ใช่แบบใหม่ที่ JAL โฆษณาไว้ตั้งแต่ตอนไปคราวที่แล้ว แต่ที่แตกต่างจากเก้าอี้ดีไซน์เก่าในเครื่องอื่น คือตัวนี้ผลิตโดย Recaro ซึ่งนั่งสบายกว่าเก้าอี้บน Boeing 777 นิดนึง
บริเวณที่วางขากว้างกว่าแบบรู้สึกได้ และอุปกรณ์ความบันเทิงต่าง ๆ เป็น MAGIC V รุ่นล่าสุดของ JAL ซึ่งเป็นหน้าจอสัมผัสความละเอียดสูง มีแจ็ค Video in แบบ RCA และพอร์ต USB สำหรับชาร์จอุปกรณ์ติดมาให้ด้วย
อินเตอร์เฟสสวยงาม ใช้ง่ายกว่าเดิม แต่ก็แอบหน่วง ๆ บ้าง ไม่ค่อยทันใจวัยรุ่นเท่าไร ระบบสัมผัสเป็นเป็น Resistive ต้องออกแรงจิ้มหน่อย
ของว่างที่เสริฟตอนขึ้นเครื่องยังเหมือนเดิมกับคราวที่แล้วเป๊ะ ๆ แครกเกอร์ข้าว 1 ถุง และขนมปังไส้กรอก
ส่วนมื้อเช้า เป็นข้าวสตูว์ สลัดหมูย่าง ผลไม้ ดีกว่ามื้อเช้าของคราวที่แล้วมาก
กระจกของ 787 สามารถปรับให้เป็นระดับการตัดแสงหรือให้ทึบไปเลยเพียงปรับสวิตช์เท่านั้น
และเครื่องก็มาลงจอดที่สนามบินนาริตะ รอบนี้เครื่องไม่ได้จอดที่ตัวอาคารหลัก ต้องเสียเวลาเดินไกลมาก ๆ เพื่อมาที่ตัวอาคารหลัก
พนักงานต้อนรับของสนามบิน เดี๋ยวนี้อะไร ๆ ก็เป็นดิจิตอลไปหมดแล้วประเทศนี้
รอบนี้ตม.เสร็จแล้วมาก เพราะมาไฟลท์เช้าและไม่เจอกรุ๊ปทัวร์ เรื่องวีซ่าก็ผ่านฉลุย เลยรีบควบ Narita Express เข้าโตเกียวเพื่อไปชิบูย่าโดยเร็วที่สุด
ตอนต่อไป ก็ไปดูกันครับว่าเพราะอะไร ผมถึงต้องรีบไปที่ชิบูย่ากัน
Pingback: เที่ยวญี่ปุ่น 3 : เริ่มต้นเดินทาง | Silhouette Garden