หลังจากที่รถไฟ THSR พาพวกผมมายังสถานี Taichung แล้ว พวกผมก็เตรียมตัวเพื่อเดินทางต่อไปยัง Sun Moon Lake หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อทะเลสาบสุริยันจันทรากันครับ
การเดินทางจากสถานี Taichung ไป Sun Moon Lake เราจะต้องใช้บริการรถบัสของ Nan Tou Bus ซึ่งจะอยู่ที่ทางออก 5 ที่ชั้นล่างของสถานี
Nan Tou Bus จะมี Sun Moon Lake Pass ซึ่งเป็นบัตรรวมตั๋วรถบัส เรือ รถกระเช้า และบริการอื่น ๆ ขายในราคาพิเศษ ซึ่งตอนปี 2016 ที่ผมไป ผมได้ซื้อ Pass ราคา 720 NT ซึ่งประกอบไปด้วย
- ตั๋วรถบัสเที่ยวเดียว Taichung – Sun Moon Lake
- ตั๋วรถบัสเที่ยวเดียว Taichung – Puli และ Puli – Sun Moon Lake (ซึ่งตั๋วทั้ง 2 ใบนี้มีค่าเท่ากับตั๋วใบแรก เหมาะสำหรับคนที่จะแวะเที่ยวเมือง Puli ก่อน)
- ตั๋วเรือไป – กลับ Sun Moon Lake Shuttle Boat
- ตั๋วรถกระเช้าไป – กลับ Sun Moon Lake Ropeway
- ตั๋วรถบัสรอบทะเลสาบ 1 วัน
- ตั๋วรถบัสเที่ยวเดียว Shuishe – Xiangshan
นอกจากตั๋วยานพาหนะต่าง ๆ ยังมีพาสแบบที่รวมบัตรเข้า Formosan Aboriginal Culture Village และบัตรเช่าจักรยานอีกด้วย ซึ่งรายละเอียดของพาสต่าง ๆ ในปีนี้สามารถเช็คได้จากเว็บไซต์ของ Nan Tou Bus ครับ
พอซื้อตั๋วแล้ว พวกผมก็มารอขึ้นรถบัสที่ป้ายข้างนอก เพื่อรอเวลาที่รถบัสจะมา เมื่อรถบัสมาถึง ถ้าเราบอกเจ้าหน้าที่ว่าจะไป Sun Moon Lake เขาจะฉีกตั๋วรถบัส Taichung – Sun Moon Lake ไป
รถบัสจะเป็นแบบปรับอากาศ และมีการตกแต่งภายในคล้าย ๆ รถทัวร์บ้านเรา ตรงกลางจะมีโทรทัศน์ซึ่งแสดงวิดีโอของ Sun Moon Lake อยู่
รถบัสใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะถึงป้าย Puli หากใครจะไป Sun Moon Lake อย่าเพิ่งรีบลงที่ป้ายนี้
อีก 1 ชั่วโมงต่อมา รถบัสจะเข้าสู่บริเวณ Sun Moon Lake และมาจอดตรงหน้า Shueishe Visitor Center ซึ่งบริเวณนี้จะมีศูนย์ข้อมูล ร้านขายยา ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด ตู้ล็อกเกอร์ฝากของ ฯลฯ คอยให้บริการอยู่
ตอนพวกผมลงมาจากรถและกำลังหาทางไปท่าเรืออยู่นั้น ก็ไปเจอเจ้าหน้าที่แลกตั๋วเรือ ซึ่งเขาก็ฉีกพาสแล้วเอาตั๋วเรือให้ผมแบบงง ๆ พร้อมบอกทางไปท่าเรือให้
ตั้งแต่ผมนั่งรถบัสเข้ามาในบริเวณ Sun Moon Lake นอกจากป้ายชื่อแล้ว ก็ยังไม่ได้เห็นทะเลสาบจริง ๆ สักที จนกระทั่งตอนเดินมาที่ท่าเรือ Shueishe พื้นน้ำสีเขียวอันกว้างใหญ่ของทะเลสาบก็มาปรากฏให้เห็นตรงหน้า
ที่ท่าเรือจะมีเรือยอร์ชจอดอยู่หลายลำ แต่เรือ Shutter Boat ที่เราต้องขึ้น จะมีหน้าตาตามรูปข้างบน ตอนขึ้นเรือจะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บตั๋วเรือ Shutter Boat ที่เราได้ไป
เรือจะค่อย ๆ ขับพาเรามายังที่หมายจุดแรก ซึ่งก็คือวัด Xuanguang หรือวัดพระถังซำจั๋ง ที่ตัววัดตั้งอยู่บนภูเขา สามารถสังเกตเห็นได้จากบนเรือ
เมื่อเรือเทียบท่าด้านล่างของวัดแล้ว เจ้าหน้าที่จะแสตมป์ข้อมือเราตอนลงเรือ และบอกว่าให้เรากลับมาขึ้นเรือที่เดิมเพื่อไปยังจุดหมายต่อไป
ตรงบริเวณทางขึ้นของวัด จะมีของทานเล่นขึ้นชื่อของที่นี้อย่างไข่ต้มสมุนไพรขายอยู่ ใครหิวก็ไปลองทานกันได้ ส่วนตัวผมไม่ได้แวะทาน เดินผ่านไปขึ้นบันไดเลย
การเดินขึ้นไปยังตัววัดข้างบนไม่ยากมากนัก ใช้เวลาค่อย ๆ เดินไม่นานก็ถึงตัววัดแล้ว
ช่วงที่ไปตัววิหารปิดอยู่ แต่ทางวัดได้กางเต๊นท์สำหรับบูชาอยู่ข้าง ๆ วิหาร
ตอนที่ผมไป สิ่งที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องไม่พลาดคือ การถ่ายรูปกับป้ายหินสลักชื่อ Sun Moon Lake เป็นภาษาจีน ที่ด้านหนึ่งของป้ายหินจะสลักเป็นรูปพระ ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะเป็นพระถังซำจั๋งนะ
จากรูปข้างบนอาจจะดูไม่มีคน แต่จริง ๆ แล้วคนต่อคิวถ่ายรูปกันเยอะมาก ถึงขนาดทางวัดต้องวางเสากั้นคิวกันเลยทีเดียว
เดินเลยจากตัววัด Xuanguang จะเป็นเส้นทางเดินเขา Qinglong ซึ่งจะพาไปยังวัด Xuanzang หรือวัดเจ้าแม่กวนอิมที่อยู่ด้านบน พวกผมไม่ได้เดินขึ้นไป เพราะใช้เวลาไป – กลับนาน
ทริป Sun Moon Lake ของผมยังไม่จบเพียงเท่านี้ อย่าลืมติดตามตอนต่อไปกันด้วยนะครับ