หลังจากที่เอากระเป๋าไปเก็บที่โรงแรมแล้ว ผมก็รีบออกจากโรงแรมไปยังร้าน Osanai ซึ่งเป็นร้านอาหารที่เป็นต้นฉบับในการทำเมนูเกี่ยวกับหอยเชลล์ของเมืองนี้ครับ
ร้านจะอยู่ตรงแถว ๆ หัวถนน Shin-machi Dori ทางฝั่งสถานี Aomori หากออกมาจากสถานีตรง East Exit ก็ให้เดินเข้ามาที่ถนนตรง ๆ เลยก็จะเจอ
ภายในร้านไม่เล็กไม่ใหญ่ ตอนผมมาโต๊ะไม่เต็ม แต่มีคนเข้าร้านเรื่อย ๆ (รูปข้างบนถ่ายตอนร้านจะปิดแล้ว)
น้ำเปล่ากับชาร้อนเป็นแบบบริการตัวเองที่ตู้กดด้านใน
ที่ร้านมีเมนูน่ากินหลายอย่างมาก จนแฟนหอยเชลล์อย่างผมลำบากใจในการเลือก เพราะมาคนเดียว ไม่สามารถสั่งหลายจานมาแบ่งกินได้ เลยเลือกจากหลักเป็น Miso Grilled Scallops Set Meal หรือหอยเชลล์ตุ้นมิโซะราดด้วยไข่ ซึ่งเป็นเมนูพิเศษของจังหวัด Aomori
สังเกตดูในรูปจะเห็นไข่หอยเม่นวางโป๊ะอยู่ข้างบนด้วย เรียกได้ว่าตามติดมาจาก Kuji เลยทีเดียว
ส่วนอีกเมนูที่ผมสั่งมาด้วยคือหอยเชลล์ย่างเนย ซึ่งเขาจะย่างมาค่อนข้างแห้ง มีน้ำขลุกขลิกเล็กน้อย รสเนยเข้าเนื้อหอยเชลล์มาก ๆ
โดยรวมแล้วอาหารร้านนี้อร่อยมาก แถมไม่ค่อยแพงด้วย ใครชอบทานหอยเชลล์อยู่แล้วไม่ควรพลาด
ทานข้าวเสร็จ ผมก็ถือโอกาสออกมาเดินเล่นที่ถนน Shin-machi Dori สักหน่อย
ผมรู้สึกว่าที่นี้พอตกกลางคืนก็แทบจะร้างผู้คนแล้ว ร้านค้าพากันปิดหมด ไม่รู้เป็นเฉพาะวันที่ไปหรือเปล่า
ผมเลี้ยวไปยังถนน Aspam Dori เพื่อแวะไปดูหนึ่งในแลนด์มาร์คของเมืองนี้
ซึ่งก็คือฐานทัพ ไม่ใช่ ! มันคือตึกศูนย์ท่องเที่ยวของจังหวัด Aomori ต่างหาก
ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะลองเดินไปที่ตึกดู แต่พอถึงถึงตรงถนนหน้าตึก รู้สึกถึงบรรยากาศอันวังเวง เลยเดินย้อนหลับทางเดิมแทน
ผมเดินกลับโรงแรมทางเดิม และไม่ลืมที่จะแวะร้าน Lawson ระหว่างทางเพื่อหาขนมและเครื่องดื่มก่อนนอน นอกจากนี้ผมยังพยายามนั่งปล้ำกับเครื่องขายตั๋ว Loppi เพื่อซื้อตั๋วงาน Idol Yokocho แต่ก็ไม่สำเร็จ
ผมเดินไปถึงบริเวณสถานี Aomori ก่อนที่จะกลับไปยังโรงแรมที่พัก จบไปทริปไปอีกหนึ่งวัน
ตอนหน้า ผมจะพาไปดูการเตรียมการย้ายปราสาท Hirosaki ที่สวน Hirosaki กัน อย่าลืมติดตามกันนะครับ