เที่ยวญี่ปุ่น 3 : ลาก่อน Aomori สวัสดี Tokyo

JR Aomori Station

 หลังจากที่ผมนั่งรถไฟกลับมายังสถานี Aomori จาก Hirosaki แล้ว ยังพอมีเวลาอีกเล็กน้อย ก่อนที่จะนั่งรถไฟที่จองไว้กลับโตเกียว  ผมเลยถือโอกาสเดินดูสถานที่น่าสนใจบริเวณรอบ ๆ สถานีครับ

A-FACTORY

ผมเดินจากสถานีไปทางบริเวณฝั่งของเมือง ก็เจอ A-FACTORY เป็นศูนย์รวมร้านอาหารและสินค้าท้องถิ่นต่าง ๆ ของเมือง Aomori นอกจากนี้ภายในยังมีโรงผลิตไซเดอร์ที่ใช้แอปเปิ้ลจาก Aomori ที่เปิดให้ชมขั้นตอนการผลิตและชิมอีกด้วย

Nebuta House Warasse

ในบริเวณเดียวกันยังเป็นที่อยู่ของ Nebuta House Warasse พิพิธภัณฑ์เทศกาล Nebuta ซึ่งเป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงของ Aomori ภายในมีการจัดแสดงโคมไฟต่าง ๆ รวมทั้งโคมไฟที่เคยไปเดินขบวนงานเทศกาลมาแล้ว

Aomori Bay Bridge

ถัดจาก A-FACTORY ก็คือสะพาน Aomori Bay Bridge เป็นสะพานขึงที่พาดผ่านบริเวณริมฝั่งของเมือง ตัวสะพานนอกจากจะออกแบบเพื่อการจราจรแล้ว ยังถูกออกแบบให้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองอีกด้วย โดยเสาและรูปแบบการขึงเคเบิ้ลนั้นจะมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมคล้ายตัว A ซึ่งเป็นตัวอักษรตัวแรกของชื่อเมือง

Hakkoda-maru Memorial Ship

ไกลออกไปจากบริเวณสะพาน จะเป็นบริเวณที่จอดเรือข้ามฝาก Hakkoda-maru ซึ่งในอดีตนั้นถูกใช้เพื่อบรรทุกผู้คน สิ่งของ และขบวนรถไฟ เดินทางระหว่างเมือง Aomori บนเกาะ Honshu และเมือง Hakkodate บนเกาะ Hokkaido

เนื่องจากปัจจุบันนี้มีอุโมงใต้ทะเล Seikan เชื่อมต่อระหว่างสองเกาะนี้แล้ว เรือ Hakkoda-maru จึงถูกปลดระวางแล้วนำไปทำเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อเล่าถึงประวัติของตัวเรือเอง

JR Aomori Station

ผมเดินถ่ายรูปอยู่สักพักก็ใกล้เวลาที่จะต้องขึ้นรถไฟที่จองแล้ว ก็เดินกลับไปยังสถานี Aomori โดยไม่ลืมที่จะแลกของขวัญ JR East Pass ที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวที่อยู่ในตัวสถานีรถบัสที่อยู่ใกล้ ๆ กันก่อน

JR Aomori Station

การเดินทางขากลับเริ่มต้นจากการนั่งรถไฟสาย Super Hakucho ไปลงสถานี Shin Aomori เพื่อต่อรถไฟ Hayabusa ไปยังโตเกียว

JR Shin Aomori Station

พอมาถึงสถานี Shin Aomori แล้ว ผมก็ต้องรีบขึ้นยังชานชาลาของรถไฟชินคันเซ็นที่อยู่ชั้นบนของสถานี เพราะใกล้เวลาที่รถไฟจะออกแล้ว

Hakkoda Ushi Shigureni Bento

ด้วยความที่ตอนที่ขึ้นรถไฟชินคันเซ็นคราวที่แล้ว ผมยังไม่ได้มีโอกาสลองประสบการณ์การกินข้าวกล่องบนรถไฟ ก็เลยถือโอกาสตอนอยู่ที่สถานี Shin Aomori แวะซื้อข้าวกล่องที่ดูน่าสนใจมาทาน

จากการเลือกอย่างรวดเร็ว ผมก็ได้ข้าวกล่อง Hakkoda Ushi Shigureni Bento มา เพื่อเป็นการชดเชยที่ไม่ได้กินร้านเนื้อย่างตามที่ตั้งใจที่ Iwate

Hakkoda Ushi Shigureni Bento

ข้าวกล่องนี้ประกอบไปด้วยเนื้อ Hakkoda ที่เป็นเนื้อวัวขึ้นชื่อทางแทบ Aomori ต้มแบบ shigure ซึ่งเป็นการต้มด้วยซอสโชยุและขิง ราดข้าวที่โรยด้วยไข่ฝอย และเครื่องเคียงไว้กินคู่กัน

รสชาติที่ว่าโอเคอยู่ เนื้อนุ่มดี แต่ติดว่ามันเย็น รสชาติมันเลยยังไปได้ไม่สุด ถ้าได้อุ่นเพิ่มน่าจะอร่อยเหาะ

The Railway Museum

ตอนรถไฟจะเข้าสถานี Omiya ก็ผ่านชั้นบนสุดของ The Railway Museum ด้วย

JR Ueno Station

ผมนั่งอยู่บนรถไฟเกือบ 4 ชั่วโมง ก็มาถึงสถานี Ueno ซึ่งผมก็ลงจากรถไฟที่สถานีเพื่อต่อรถไฟใต้ดินไปยังสถานี Minami Senju

Minami-Senju

พอถึง Minami Senju แล้ว ผมก็เดินไปเช็คอินที่โรงแรมใหม่อีกครั้ง ก่อนที่จะออกจากโรงแรมเพื่อไปยังเป้าหมายถัดไป

สำหรับทริปเที่ยวโทโฮคุของผมก็จบลงแล้ว ตอนหน้า ผมจะเขียนถึงการซื้อตั๋วคอนเสิร์ตและประสบการณ์ชมละครเวทีแบบอินดี้กัน อย่าลืมติดตามอ่านกันนะครับ

One thought on “เที่ยวญี่ปุ่น 3 : ลาก่อน Aomori สวัสดี Tokyo

  1. Pingback: เที่ยวญี่ปุ่น 3 : เดินชมพิพิธภัณฑ์รถไฟ The Railway Museum ของ JR East ตอนที่ 2 | Silhouette Garden

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *