และในที่สุดก็ถึงวันสุดท้ายของทริปไปญี่ปุ่น ที่ผมติดสอยห้อยตามชาวบ้านเขาไปแล้ว แปลนวันสุดท้ายคือการไปชมซากุระที่สวนอุเอะโนะครับ
แต่ก่อนที่จะไปชมซากุระที่สวนอุเอะโนะ พวกผมก็ใช้เวลาเดินเล่นยามเช้าในสวนของโรงแรมกันก่อน
คือนอนที่นี้มาก็หลายคืน เดินผ่านสวนก็ทุกวัน แต่ไม่มีโอกาสดึมด่ำกับบรรยากาศสวนที่นี้เลย
จากนั้นพวกผมก็นั่งรถไฟสาย Yamanote ไปลงยังสถานีอุเอะโนะ แล้วก็เดินวนหาร้านเพื่อกินข้าวเช้า เห็นร้าน Midori Canteen ดูน่าสนใจ เลยลองเข้าไปนั่งกินดู
ร้านนี้ขายอาหารแนวชีวจิต เน้นผักเป็นหลัก แต่ก็มีชุดอาหารเช้ามาตรฐานขายด้วยเช่นกัน ผมก็จัดชุดปลาแซลมอนในรูปมาชุดนึง รสชาดก็มาตรฐานอาหารญี่ปุ่นที่นั้น แต่ผมชอบข้าวที่เขาผสมธัญพืช และมันบดผสมธัญพืช กินแล้วกรุบ ๆ ดี
จากนั้นก็เดินออกสถานีที่ทางออกสวนอุเอะโนะ (คนละทางออกกับวันก่อนหน้า) ซึ่งในสวนอุเอะโนะจะประกอบไปด้วยสถานที่อื่น ๆ อีก เช่น National Museum of Western Art
เดินมาถึงบริเวณใจกลางสวน ก็มีร้าน Starbucks อยู่ น้องผมอยากกินชาเขียวซากุระ แต่น่าจะหมดช่วงไปแล้ว ก็เลยไม่ได้กินอะไร แต่ทุกเช้าพวกผมซื้อชาเขียว Starbucks บรรจุแก้วพลาสติกที่ 7 – 11 กินกันทุกเช้าอยู่แล้ว สนนราคาถูกกว่าซื้อแบบชงกินที่ร้านมาก พอแก้ขัดกันได้
เดินไปอีกหน่อย จะเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติโตเกียว ซึ่งไม่ใช่เป้าหมายของเรา ก็ชักรูปกันพอเป็นพิธี
พวกผมหันไปฝั่งตรงข้าม เพื่อเข้าไปดูซากุระในสวนกัน เนื่องจากวันที่ไปเป็นวันเสาร์ คนเลยเยอะมากทั้งคนญี่ปุ่นเอง และนักท่องเที่ยว
เจ้าบ้านเองก็จะรีบมากันแต่เช้า เพื่อมาจองที่นั่งกินข้าวใต้ต้นซากุระกัน ซึ่งเขาก็จะมีการตีเชือกกั้นอย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้ล้ำไปในถนน
อากาศวันนั้นจัดว่าไม่ค่อยดีครับ ฟ้าปิด ฝนตกปรอย ๆ เลย ยังดีไม่ตกหนัก
ในสวนมีร้านอาหารด้วย
นอกเหนือจากการมาชมซากุระแล้ว พวกผมตั้งจะมาไหว้พระที่ Bentendou ที่อยู่ในสวนนี้ด้วย
ซึ่งเราจะต้องลงบันได แล้วข้ามถนนที่ตัดผ่านกลางสวนอีกที
ว่าแล้วก็ข้ามถนนไปยังวัดกันครับ