หลังจากที่ Romancecar มาจอดที่สถานีชินจูกุแล้ว ก็ได้เวลาหรรษากันในโตเกียวสักที
หลังจากลงจากรถไฟแล้ว กลุ่มที่ไปด้วยกันวางแผนว่าจะใช้เวลา 1 วันไปเที่ยว Tokyo Disney Land กัน แต่จากการเช็คในเว็บไซต์ พบว่าถึงแม้จะมีตั๋วขายที่หน้าประตู แต่ถ้าคนไปกันเยอะมาก ๆ แล้ว ก็อาจจะไม่ได้เข้าไปได้ เราเลยต้องซื้อตั๋วล่วงหน้ากันก่อนที่ร้าน Disney Store ซึ่งสาขาที่ใกล้สุดจะอยู่ที่ห้าง LUMINE EST
โชคดีของผมคือ ระหว่างที่เขาไปซื้อตั๋วดิสนีย์แลนด์กันอยู่ ผมเห็นร้าน HMV ที่ขายแผ่นเพลงและหนังเจ้าประจำพอดี เลยถือโอกาสช็อปนิดหน่อยเป็นน้ำจิ้ม
ผมก็เดินหยิบแผ่นนู่นนี้ เอาไปจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์ สรุปหมดไปเกือบ 5 หมื่นเยน ยังดีที่บางแผ่นมันมีโปร Multi-buy กับลดราคา 15% อยู่ เลยไม่เจ็บหนักมากนัก
พอเสร็จภารกิจที่ LUMINE EST แล้ว พวกผมก็นั่งรถไฟไปโรงแรมในย่านชินากาวะ เพื่อเอากระเป๋าไปเก็บ ก่อนที่จะแยกย้ายกันเดินทาง ซึ่งเป้าหมายผมในวันนี้คือ การซื้อหูฟัง Sony MDR-EX800ST ซึ่งเป็นหูฟังที่ไม่ได้มีขายทั่ว ๆ ไปตามห้างเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ เนื่องจากหูฟังตัวนี้ไม่ใช่สินค้าของ Sony เอง คือ Sony ผลิตให้ Sony Music ไว้ใช้งานในสตูดิโอของตัวเอง ซึ่งใครสนใจต้องซื้อผ่านตัวแทนของเขาเท่านั้น ซึ่งผมก็ได้ไปสืบมาเรียบร้อยแล้วว่าต้องซื้อจากร้านไหน
ที่สถานีชินากาวะ Sony เอาทีวี 4K รุ่นล่าสุดไปวางโชว์เพื่อโปรโมทอีเวนท์ที่ Sony ไปถ่ายทำการแสดงคาบูกิด้วยระบบ 4K แล้วนำวิดีโอที่ถ่ายทำไปเปิดโชว์ที่ Sony Building ในกินซ่าครับ ลงทุนจริง ๆ
ว่าแล้ว เราก็นั่งรถไฟสาย Yamanote มาลงที่สถานี Akihabara ใช้เวลาเดินทางไม่นานมากนัก
เนื่องจากพวกผมตั้งแต่เข้าโรงแรมนั้น ยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงกันเลย ก็ตั้งใจว่าจะมากินกันที่ AKB48 Cafe & Shop นี้แหละ แต่ร้านคิวยาวเยียดมาก คือมองจากข้างนอกอาจจะรู้สึกว่าน้อย แต่จริง ๆ มีคิวคดกันอยู่ในร้านอีก
สำหรับ AKB48 Cafe & Shop จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 ส่วน คือส่วน Shop ทางซ้ายและทางขวา ทางซ้ายจะขายของชิ้นใหญ่ ๆ เช่น แฟ้ม ที่รองจาน ทางขวาจะขายของชิ้นเล็ก ๆ แผ่นเพลง และดีวีดี ส่วน Cafe จะมีส่วนซื้อกลับบ้านที่จะอยู่ข้างนอกร้าน และร้านสำหรับนั่งทานอาหาร ส่วนสุดท้ายคือเธียเตอร์จำลอง เอาไว้สำหรับจัดอีเวนท์ของทางวงเอง หรือถ้าว่าง ก็สามารถจองเพื่อใช้งานกันเป็นกลุ่มได้
เรื่องสินค้าที่ขาย Shop ตรงนี้จะมีน้อยกว่า Shop ที่ห้างดองกี้มาก แต่ก็จะมีของบางชิ้นที่ Shop ที่นั้นไม่มีขายเหมือนกัน เช่น สินค้าของวงน้องสาว ของที่ระลึกของ AKB48 Cafe สำหรับคนที่อยากจะดูของก่อนซื้อ และมีเวลาซื้อน้อย เช่น ซื้อของเพื่อเป็นของฝากชาวบ้าน แนะนำว่าซื้อของจากที่นี้จะดีกว่าครับ หยิบง่าย เร็ว สะดวก
ส่วนบรรยากาศในร้านตอนนั้น คนแน่นมาก แต่ที่ประทับใจคือ มีพ่อลูกคู่นึงเป็นโอตะ AKB48 ด้วยกันทั้งคู่ ต่างคนต่างหยิบของที่ตัวเองจะเอา แล้วเข้าแถวรอจ่ายเงิน ระหว่างรอ ก็คุยกันถึงโอชิเมมตัวเอง หาเหตุผลมางัดว่าใครดีกว่า เป็นภาพที่หาได้ยากยิ่ง แม้กระทั่งกับคนญี่ปุ่นเองก็เถอะ
พอ AKB48 Cafe คนเยอะ เราก็ล่าถอย มาที่ร้าน Gundam Cafe ที่อยู่ข้าง ๆ กันแทน ดู ๆ แล้วไม่มีคิว ร้านน่าจะว่าง
พอเข้าไปในร้าน คือร้านว่างจริง แต่ว่างแค่โซนสูบบุหรี่ ก็เลยอดกินไปอย่างน่าเสียดาย
พอดีก่อนมา ผมแอบทำข้อมูลร้านของกินอร่อย ๆไว้ ในกรณีที่ต้องหาร้านข้าวกินเอง จำได้ว่ามีร้านโอโคโนมิยากิอร่อย ๆ อยู่ ที่ Akihabara UDX จึงไม่รอช้าไปที่ตึกนั้นทันที
ตึก Akihabara UDX นี้อยู่ใกล้ ๆ กันกับสถานีรถไฟเลย ใครดูอนิเมะที่เกี่ยวข้องกับอากิบะ เช่น “น้องสาวผมไม่น่ารัก” น่าจะรู้จัก มันคือตึกที่น้องสาวไปยืนดูการ์ตูนที่ฉายอยู่บนจอของตึกแล้วกรีด ๆ แหละครับ
และก็มาถึงร้านที่เราจะมากินในวันนี้ Okonomiyaki Yukari ที่หาข้อมูลได้มาคือเป็นร้านโอโคโนมิยากิชื่อดังมากที่โอซาก้า มาเปิดสาขาในโตเกียวที่นี้ครับ ซึ่งตามปกติร้านคนจะแน่นมาก แต่วันนี้มาไม่เจอใครเลย จนมอง ๆ อยู่หน้าร้านแป๊บนึง คนในร้านเลยเรียกเข้าไป ซึ่งการที่ลูกค้าน้อยนับว่าโชคดีมาก เพราะร้านนี้เขาให้สูบบุหรี่ในร้านได้ เราเลยไม่ต้องเผชิญหน้ากับซาลารี่มังสูบบุหรี่ แต่ตอนเข้าไปนั้น ก็ได้กลิ่นบุหรี่ลอยมาจากโต๊ะข้าง ๆ ซึ่งกำลังจะเช็คบิลออกไปพอดี
บนโต๊ะ เจอของโรยหน้าต่าง ๆ เช่น ปลาแห้ง ขิงดอง ที่เขี่ยบุหรี่ และเมนู เมนูที่นี้จะมีทั้งรูปสีและคำบรรยายภาษาอังกฤษนิดหน่อย ก็ไม่น่ามีปัญหาในการสั่งอาหารเท่าไร
อุปกรณ์การกินที่ให้มา จะเห็นว่าเขามีตะหลิ่วอันเล็กให้ด้วย แต่ไม่ได้เอาไว้ทำนะครับ เอาไว้แค่ตัดกับยกโอโคโนมิยากิชิ้นที่ตัดแล้วอย่างเดียว
สำหรับเมนูที่ผมสั่งไปคือ โอโคโนมิยากิชีส ที่เห็นในรูปข้างบน ประกอบด้วยชีส 5 ชนิด และโอโคโนมิยากิทะเล
สำหรับใครที่กลัวว่าจะต้องผสมเครื่องและพลิกพิซซ่าเองก็หมดกังวลได้ มีคนมาทำให้ทุกขั้นตอนจนเสร็จครับ
สำหรับคนที่มาทำให้โต๊ะผม พูดจาภาษาอังกฤษคล่องมาก แถมพอรู้ว่าพวกผมเป็นนักท่องเที่ยว ก็มีเล่าประวัติของโอโคโนมิยากิให้ฟังอีกด้วย เช่นว่า มันเริ่มต้นมาจากที่ฮิโรชิม่าประมาณนั้น
ผมมาทราบที่หลังว่าคนที่ทำโอโคโนมิยากิให้โต๊ะผม เป็นระดับผู้จัดการร้านที่นี้ ได้ลงในแผ่นพับแนะนำร้านอาหารของที่ UDX ด้วย
และมันก็เสร็จเรียบร้อย พร้อมกินล่ะ
Pingback: เที่ยวญี่ปุ่น : ชมการแสดงสด ๆ ของสาว AKB48 ที่ AKB48 Theater ก่อนกลับบ้าน | Silhouette Garden