พอออกมาจากห้องแต่งตัวก็จะเจอบรรยากาศเมืองเอโดะจำลอง มีทั้งร้านขายของ ร้านเกม ร้านหมอดู เหมือนงานวัดญี่ปุ่นที่จะคอยมาหลอกเอาเงินจากบาร์โคดบนสายคล้องข้อมือของเรา
มีแม้กระทั่งคูน้ำและหุ่นยนต์น้องหมาที่เห่าได้จริง ๆ
ที่นั่งก็จะอยู่กระจาย ๆ กันเพื่อให้มานั่งพักทานขนมที่ซื้อออกมาจากร้าน
ป้ายฮีโร่ในเรื่อง Tiger & Bunny ที่ไปซื้อพื้นที่โฆษณาบนตัวฮีโร่ไว้ไว้
เนื่องจากปวดขาและเท้ามาก ๆ ผมเลยเดินไปแช่เท้าที่บ่อน้ำร้อนข้างนอกก่อน
อากาศถึงแม้จะหนาว แต่พอได้แช่เท้ามันก็สบายจริง ๆ (ก่อนเดินเข้ามา เขาจะมีเสื้อหนาวให้ยืมแขวนอยู่ ถ้าไม่มีผมคงไม่ออกไปแช่เท้าแน่นอน)
ไหน ๆ ที่นี้ก็มีอาหารขาย ก็เลยถือโอกาสหาข้าวเย็นทานซะเลยทีนี้ ผมเลยเดินไปยังอีกโซนนึงที่มีร้านอาหารให้เลือกเยอะกว่า
ร้านอาหารของที่นี้จะแบ่งออกเป็นสองแบบคือ แบบสวนอาหาร คือไปซื้อมาแล้วนั่งกินตรงกลาง กับเป็นร้านเข้าไปนั่งทานเลย แบบเข้าไปนั่งทานส่วนมากจะเป็นร้านเหล้ากับร้านอาหารเกรดหรูไปเลย ซึ่งราคาจะแพงกว่าและอนุญาตให้สูบบุหรี่ข้างในได้
ตอนนั้นอารมณ์แบบว่าอยากกินข้าวหน้าปลาดิบ เลยได้สมใจอยากที่ร้าน Ezo Tarabamaru
ผมสั่งเป็นชุด Ishikaridon ได้ข้าวหน้าปลาแซลม่อนดิบ ซุปมิโซะ โซบะเย็น ส่วนเครื่องดื่มที่นี้เขามีน้ำเปล่า ชาอู่หลง และชาเขียว บริการฟรีทั้งร้อนและเย็น ชงสด ๆ ด้วยเครื่องอัตโนมัติ
เรื่องรสชาติ ผมว่าธรรมดามาก ๆ ไม่ได้ประทับใจอะไรมากมาย เมื่อเทียบกับราคาที่จัดว่าค่อนข้างแพง แต่ชอบชาเขียวของที่นี้นะ กดจากเครื่องก็จริง แต่มันก็ชงแบบมีขั้นตอน คือพอกดเครื่องปุ๊บ มันจะใส่ชาเขียวเข้มข้นออกมาก่อน แล้วก็ใส่น้ำร้อนตามในปริมาณที่เท่ากับแก้วของเราพอดี
กินเสร็จได้เวลาไปแช่ออนเซ็นสักที
สำหรับขั้นตอนการใช้บริการ เขาจะมีคู่มือภาษาอังกฤษพร้อมภาพประกอบแจกให้อยู่แล้ว ซึ่งก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่าคือเราต้องแก้ผ้าหมดตัวเข้าไปอาบร่วมกับคนญี่ปุ่นก็เท่านั้นเอง
ขั้นตอนคราว ๆ คือ เมื่อเข้าไปแล้ว ให้เราไปเบิกเอาผ้าเช็ดตัวกับผ้าขนหนู จากนั้นให้ไปหาล็อกเกอร์ว่าง ๆ เพื่อเอาชุดยูกาตะ ผ้าเช็ดตัว และของติดตัวทุกอย่าง รวมทั้งสายคล้องมือเก็บไว้ในตู้ แล้วเอากุญแจตู้มาคล้องที่มือแทน
ใครต้องการแปรงฟัน สามารถหยิบแปรงจากเคาท์เตอร์ได้ ซึ่งมันจะเป็นแปรงที่มียาสีฟันในตัวอยู่แล้ว แค่โดนน้ำก็แปรงได้เลย ส่วนใครจะโกนหนวด ตรงทางเข้าจะมีมีดโกนให้ ส่วนโฟมโกนหนวดสามารถไปเอาตอนเข้าไปข้างใน
เนื่องจากส่วนออนเซ็นห้ามถ่ายรูป เลยยืมรูปจากเว็บของเขามาแทนนะครับ
พอเข้าไปข้างใน ให้เอาน้ำอุ่นที่มีขันใบใหญ่ตักราดตัวเอง 1 – 2 ขัน แล้วเข้าไปอาบน้ำให้สะอาดก่อน ที่นี้มีสบู่ แชมพู ครีมนวด และโฟมโกนหนวดพร้อม อาบเสร็จก็อยากจะแช่บ่อไหนก็ตามสบาย แต่ละบ่อจะมีอุณหภูมิบอกอยู่ น้ำพุร้อนของที่นี้จะใช้การเจาะจากใต้พื้นดินแล้วสูบมาใช้ครับ
ใครที่ต้องการบรรยากาศแบบธรรมชาติ คือเป็นบ่อหินอะไรแบบนี้ ก็สามารถไปแช่ด้านนอกท้าลมหนาวกันได้ แต่เขาจะมีคำเตือนว่า ก่อนออกมาจงทำตัวให้อบอุ่นเสียก่อน
พอแช่น้ำเสร็จ ถ้าอยากเรียกเหงื่อในห้องซาวน่า เขาก็มีบริการให้เลย แต่ผมไม่ได้เข้าไป ก่อนออกก็เอาน้ำอุ่นที่เดิมตักราดอีกขันสองขันแล้วออกมาที่เดิม
พอออกมาที่เดิมแล้ว ก็ไปไขตู้เอาผ้าเช็ดตัวกับยูกาตะ มาแต่งตัวให้เรียบร้อย ด้านนอกเขาจะมีหวี ครีมทาหน้า ครีมจัดทรงผม ไดร์เป่าผมไว้ให้ใช้ ใครที่จะซื้อนมร้อนทาน หรืออยากได้ชุดชั้นในหรือถุงเท้าใหม่ เขามีตู้หยอดเหรียญเตรียมไว้ให้แล้วในส่วนนี้
ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็ให้เอาผ้าเช็ดตัวกับผ้าขนหนูไปคืน แต่ถ้าใครแปลนว่าจะแช่น้ำร้อนต่อภายหลัง เห็นว่าต้องไปขอถุงจากเจ้าหน้าที่มาใส่ผ้าเอาไว้ใช้ทีหลังครับ เพราะเขาให้ผ้าแค่ครั้งเดียวต่อคน
หากเราไม่มีอะไรต้องทำที่นี้แล้ว ก็ให้กลับไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เปลี่ยนเป็นชุดที่เราเข้ามาตอนแรก แล้วเดินออกไปที่เคาท์เตอร์ที่เก่า เพื่อเอาสายคล้องมือไปคืน จากนั้นเขาก็จะคิดเงินค่าใช้บริการ สินค้า อาหาร ทั้งหมดที่เราซื้อไป
ได้แช่น้ำร้อนสบายตัวแล้ว ก็เดินกลับมาที่ Telecom Center เพื่อขึ้นรถไฟกลับสถานี Shimbashi
ส่วนใครที่ไม่ได้ตีตั๋ววันของรถไฟสาย Yurikamome ไว้ แนะนำให้เช็คตาราง shuttle bus ของที่นี้ดูว่ามันผ่านสถานที่ที่ท่านจะไปหรือเปล่า ถ้าผ่านก็ขอตั๋วจากเคาท์เตอร์แล้วนั่งรถบัสฟรีกลับได้ครับ
ก็จบไปแล้วสำหรับทริปวันที่ 4 ตอนหน้าจะเป็นการตะลุยซื้อแผ่นซิงเกิ้ลจังเกนของ AKB48 ก็คอยติดตามอ่านกันด้วยนะครับ