หลังจากที่ล่องเรือโจรสลัด ชมทะเลสาบอาชิกันแล้ว เรือจะมาจอดที่ท่าเรือ Togendai-ko ซึ่งเราก็จะมาต่อรถกระเช้า Hakone Ropeway เพื่อยังหุบเขาโอวาคุดานิกัน

โดราเอมอนก็ยังตามมาหลอกหลอนกันเหมือนเดิม ในจำนวนที่เยอะกว่าเดิม

การเดินทางไปยังหุบเขาโอวาคุดานินั้น เราจะต้องนั่งรถกระเช้า Hakone Ropeway ขึ้นไปครับ

ซึ่งสถานีรถกระเช้ากับท่าเรือนั้นจะอยู่อาคารเดียวกันพอดี ทำให้คณะเดินทางที่ยืนตากอากาศบนดาดฟ้าเรือเกือบ 0 องศา ไม่ลำบากในการเดินทางมากนัก

เรื่องน่าสนใจอย่างนึงของ Hakone Ropeway คือ ได้รับรางวัล Guinness Book ในฐานะรถกระเช้าที่มีคนใช้บริการมากที่สุดในโลก เมื่อวันที่  31 พฤษภาคม ค.ศ. 2009 โดยมีผู้ใช้บริการที่จ่ายค่าโดยสารถึง 2,064,241 คนในปี 2009 ซึ่งทำลายสถิติเดิมที่ตัวเองเคยทำไว้ที่ 2,010,059 คน ในปีงบประมาณ 2008 ครับ

กระจกบนกระเช้าบานใหญ่มาก ทำให้เราชมวิวกันได้ถนัด ๆ

ระหว่างที่นั่ง จะมีเสียงคนบรรยายความเป็นมาของ Hakone Ropeway พร้อมบอกจุดที่เราจะเห็นภูเขาไฟฟูจิด้วย แน่นอนว่าขนาดล่องเรือตอนที่แล้วยังโดนหมอกบัง ตอนนี้ก็ไม่ต่างกันครับ

ทะเลสาบอาชิ ที่เรานั่งเรือมาเมื่อกี๊ หมอกลงหนาทีเดียว

และเราก็มาถึงสถานี Owakudani ปลายทางของเราแล้ว

ช่วงที่ไป เขากำลังมีงานก่อสร้าง ปรับปรุงพื้นที่และก่อสร้างอาคารติดกับสถานีกันอยู่ แต่ก็ยังเปิดให้ชมกันตามปกติ เพียงแต่ว่าวิวอาจจะไม่สวยแค่นั้น

ยังมีจุดปั้มตราของโดราเอมอนอีกเช่นเคย แต่ที่นี้ผมหาหุ่นไม่เจอแฮะ ไม่รู้ไปยืนอยู่ที่ไหน

ว่าแล้วก็มาเริ่มต้นเดินขึ้นเขากัน

จริง ๆ ตอนเดินออกมาจากสถานี เราจะเจอร้านอาหารและขายของที่ระลึกกันก่อน แต่เนื่องจากผลของการยืนชมทะเลสาบท่ามกลางอากาศอันหนาวเย็น ผมเลยลืมถ่ายมา

ทางขึ้นเขาค่อนข้างชัน ความกดดันอากาศที่สูง และอากาศที่หนาวเย็น ผมไม่แปลกใจเรื่องที่เขาบอกว่ากินไข่ดำที่นี้แล้วจะอายุยืนถึง 7 ปีเลย เพราะแค่ปืนเขาขึ้นมากิน มันก็ได้ออกกำลังกันเยอะมาก

และคณะเดินทางก็มาจบตรงจุดที่มีร้านขายไข่ดำ จริง ๆ ปืนขึ้นไปได้อีก แต่หมดสภาพกันแล้ว ใครมาถึงจุดนี้ อย่าลืมถ่ายกับป้ายทางซ้ายเป็นหลักฐานด้วย

ตรงนี้จะมีบ่อที่เขาใช้ต้มไข่อยู่ข้าง ๆ ร้านขายด้วย

จริง ๆ ข้างล่างเขาก็มีไข่ดำขายพร้อมใส่ถุงถืออย่างดี สำหรับคนปีนขึ้นมาไม่ไหว แต่บนนี้มันออริจินอลกว่า

เสร็จแล้ว เราลงไปดูร้านขายของที่ระลึกกัน